
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกทม. เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่น PM2.5 ตรวจวัดได้ 24.8-55.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 33 พื้นที่ คือ
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 55.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 49.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 48.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : มีค่าเท่ากับ 47.0 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา : มีค่าเท่ากับ 45.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ หน้า ม.สยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 44.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 44.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 43.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 42.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 42.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก : มีค่าเท่ากับ 41.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 41.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 40.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 39.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 39.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 39.3 มคก./ลบ.ม.
- สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.
- สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ : มีค่าเท่ากับ 38.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี : มีค่าเท่ากับ 38.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ : มีค่าเท่ากับ 38.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 38.1 มคก./ลบ.ม.
- สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 37.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง : มีค่าเท่ากับ 37.8 มคก./ลบ.ม.
- สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 37.6 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 8-14 ม.ค. 67 การระบายอากาศไม่ดีถึงอ่อน ประกอบกับเกิดภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากการระบายอากาศเป็นไปอย่างจำกัด และคาดการณ์วันนี้มีเมฆบางส่วน
สำหรับคุณภาพอากาศระดับสีส้ม ถือว่าเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
สำนักสิ่งแวดล้อม ได้ประสานแจ้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง เพื่อเป็นการบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน
พร้อมเชิญชวนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วน โดยช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ “5 วิธีลดฝุ่น คุณก็ทำได้” ดังนี้
- หมั่นทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีเช็ดฝุ่น
- งดเผาขยะ งดจุดธูป
- ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง
- เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
- ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจสภาพเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน