• Skip to main content
  • Skip to secondary menu
  • Skip to primary sidebar
  • Skip to footer
Thai Pack Magazine

Thai Pack Magazine

Thai Pack Magazine

  • Home
  • Activity
    • News
    • Events
  • Articles
    • Articles
    • Intrend
    • Focus
    • Special Scoop
    • Special Area
    • เรื่องเล่าคนทำกล่อง
  • E-Book
  • E-Directory
  • About Us
  • Advertise
  • Contact Us

สถาบันวิจัยฯนอร์เวย์คาดการณ์ขยะพลาสติก 12 พันล้านตันล้นโลกในปี 2050

October 28, 2022 by admin

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งนอร์เวย์ หรือ SINTEF ชี้แต่ละปีมีขยะพลาสติกราว 13 ล้านตันเล็ดลอดลงสู่มหาสมุทร ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมหาศาลทั้งด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เศรษฐกิจ และสุขภาพของผู้คน และยังคาดการณ์ว่าตัวเลขนี้จะทวีคูณเพิ่มเป็น 3 เท่าภายในปี ค.ศ. 2040 และหากไม่มีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ขยะพลาสติกราว 12 พันล้านตันจะทับถมหรือเล็ดลอดสู่ระบบนิเวศทางธรรมชาติในปี 2050 เผยความร่วมมือในระดับนานาชาติ คือ กุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการแหล่งสร้างขยะพลาสติกสู่ท้องทะเล

การประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วยการจัดการพลาสติกในมหาสมุทรให้กลายเป็นโอกาสในเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ The Ocean Plastic Turned into an Opportunity in Circular Economy (OPTOCE) Regional Forum” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพมหานครฯ ในวันที่ 27-28 ตุลาคม 2565 มีจุดประสงค์เพื่อหาโซลูชันการรับมือกับปัญหาดังกล่าวของ 5 ชาติพันธมิตรในเอเชียทั้งไทย จีน อินเดีย เมียนมาร์ และเวียดนาม รวมถึงค้นหาโอกาสและอุปสรรคในการมีส่วนร่วมของอุตสาหกรรมซีเมนต์ในการบริหารจัดการขยะพลาสติกในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค ทั้งนี้การประชุม OPTOCE Forum จัดโดยสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งนอร์เวย์ (Norwegian Foundation for Scientific and Industrial Research: SINTEF) โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ผ่านทางสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาแห่งนอร์เวย์ (The Norwegian Agency for Development Cooperation: NORAD)

โครงการ OPTOCE ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2019 เพื่อมุ่งนำเสนอแนวทางและโซลูชันใหม่ ๆ ในการบริหารจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนสำรวจความเป็นไปได้ในการระดมพันธมิตรทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนในการเก็บรวบรวมขยะพลาสติกตามแหล่งมลภาวะ ลุ่มแม่น้ำสายหลัก และพื้นที่ริมชายหาด รวมถึงการแปลงขยะพลาสติกเป็นแหล่งพลังงานสำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงในท้องถิ่น แนวทางเหล่านี้จะสามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่จะถูกทิ้งลงแหล่งน้ำ เพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการขยะ และสร้างทางเลือกใหม่ที่คุ้มค่าและยั่งยืนในระบบการบริการจัดการขยะแบบบูรณาการในกลุ่มประเทศพันธมิตรทั้ง 5 ของเอเชีย

ดร.คอเร เฮลเก คาร์สเตนเซน (Dr Kåre Helge Karstensen)

ดร.คอเร เฮลเก คาร์สเตนเซน (Dr Kåre Helge Karstensen) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และผู้จัดการโครงการ OPTOCE SINTEF Community Norway วิทยากรหลักของการประชุม กล่าวว่า “ความร่วมมือจากนานาชาติถือเป็นกุญแจสำคัญของการบริหารจัดการแหล่งขยะพลาสติกในท้องทะเล ประมาณการณ์ว่าทั่วโลกมีปริมาณพลาสติกผลิตใหม่ราว 9.3 พันล้านตันในปี 2019 ซึ่งในจำนวนนี้ กว่า 6.3 พันล้านตันจะกลายเป็นขยะพลาสติก ประเมินว่ามีการนำไปรีไซเคิลเพียง 9% ถูกนำไปเผา 12% และถูกทิ้งไปเฉย ๆ ถึง 79% หากแนวโน้มการผลิตและการบริหารจัดการขยะพลาสติกยังคงดำเนินไปเช่นในปัจจุบัน คาดว่าจะเกิดขยะพลาสติกราว 12 พันล้านตันทับถมหรือเล็ดลอดสู่ระบบนิเวศทางธรรมชาติในปี 2050”

โครงการ OPTOCE ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการรับมือมลภาวะขยะและไมโครพลาสติกในทะเลของประเทศนอร์เวย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goal: SDG) ข้อที่ 14.1 ซึ่งระบุว่า โลกของเราควรป้องกันและลดปริมาณขยะในท้องทะเลทุกประเภทอย่างจริงจังภายในปี ค.ศ.2025 โครงการนี้เน้นความสำคัญที่แนวทางการบริหารจัดการขยะที่ขาดประสิทธิภาพของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและเขตเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะในประเทศที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับลุ่มแม่น้ำสายหลักของโลก พื้นที่กองขยะ/ฝังกลบ และศูนย์รวมโรงงานอุตสาหกรรม เพราะประเมินว่าขยะบริเวณชายหาดและในทะเลมากกว่า 80% มาจากแหล่งผลิตบนแผ่นดิน ซึ่งประเทศในเอเชียติดอันดับกลุ่มประเทศที่ปล่อยขยะและไมโครพลาสติกลงสู่ท้องทะเลสูงสุดของโลก

การประชุมครั้งนี้จะร่วมค้นหาแนวทางการมีส่วนร่วมของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการกำจัดขยะพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ในประเทศเหล่านี้ เพื่อลดปริมาณการปล่อยขยะพลาสติกลงสู่ท้องทะเล

ประเทศเหล่านี้ผลิตขยะพลาสติกราว 217,000 ตันต่อวัน หรือ 79 ล้านตันต่อปี โดยมีการปล่อยพลาสติกสู่ทะเลในปริมาณสูงสุดแต่มีขยะพลาสติกน้อยมากที่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องในลักษณะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยประเทศเหล่านี้มีอัตราการผลิตสูงสุดในอุตสาหกรรมประเภทปูนซีเมนต์ เหล็กกล้า และพลังงานไฟฟ้าที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างถ่านหิน ดังนั้นจึงมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศในปริมาณสูงด้วยเช่นกัน

การจัดการขยะพลาสติกที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ ด้วยกระบวนการเผาร่วมเพื่อทดแทนถ่านหินในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ก่อให้เกิดโอกาสดีกับทุกฝ่าย (win-win) โดยจะได้ช่วยป้องกันไม่ให้พลาสติกรั่วไหลไปยังทะเลและมหาสมุทร ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลถ่านหินลงได้เป็นจำนวนมาก และในทางอ้อม ก็ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยหลีกเลี่ยงการสร้างเตาเผาขยะใหม่หรือสร้างบ่อขยะเพิ่มขึ้น โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า การเผาร่วม หรือ Co-processing ในเตาเผาปูนซีเมนต์ หรือ การบริหารขยะอย่างบูรณาการ หรือ Integrated Waste Management โดยวัตถุประสงค์เพิ่มเติมและการทำงานร่วมกันในโครงการ OPTOCE จะประกอบด้วย:
• ลดปริมาณขยะในทะเลและมหาสมุทร ที่ก่อกำเนิดขึ้นจากกิจกรรมบนบก
• ส่งเสริมการประสานงานและความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้มีส่วนร่วมทางธุรกิจต่าง ๆ
• ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน
• ส่งเสริมงานวิจัยเพื่อสนับสนุนนโยบายและการตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

Ground with a lot of scattered plastic bottles
Ground with plastic bottles in a bag and around it

ตลอดการประชุมระดับภูมิภาคทั้ง 2 วัน ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟังเนื้อหาจากผู้บรรยายกว่า 20 ท่านทั้งจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง องค์การที่ไม่แสวงหาผลกำไร ธุรกิจสตาร์ตอัป สถาบันการศึกษา หน่วยงานรัฐบาล และสมาคมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมาร่วมกันประเมินผลลัพธ์การดำเนินโครงการ OPTOCE ในปัจจุบัน รวมถึงการพิจารณางานวิจัยขยะพลาสติกคุณภาพต่ำ มุมมองของผู้ถือประโยชน์ในเรื่องความร่วมมือ แนวทางความร่วมมือในการลดปริมาณขยะริมชายหาดและในท้องทะเล และวิธีการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ NET ZERO ของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์

นอกจากนี้ยังมีการเสวนาถึงโอกาสและอุปสรรคในการดำเนินงานด้านความร่วมมือของชาติพันธมิตรทั้ง 5 ซึ่งครอบคลุมถึงความร่วมมือและการวิจัยของสถาบันการศึกษา เพื่อกำหนดโซลูชันที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนนี้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ OPTOCE ที่ www.optoce.no

facebookShare on Facebook
TwitterTweet

Filed Under: News Tagged With: SINTEF, OPTOCE

Primary Sidebar

New E-Book

THAI PACKAGING NEWSLETTER #158 March-April 2023

THAI PACKAGING NEWSLETTER #157 January-February 2023

THAI PACKAGING NEWSLETTER #156 November-December 2022

  • Facebook
  • Instagram
  • Twitter
  • YouTube

ADVERTISING

Footer

Exclusive Clients

Recent

  • The power of partnerships: BOBST innovations showcased by key partners at interpack 2023 March 24, 2023
  • DITP ประกาศจัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2023 ยิ่งใหญ่กว่าเดิมบนพื้นที่กว่า 130,000 ตร.ม. สร้างโอกาสทางการค้าได้มากกว่าเดิมกับผู้แสดงสินค้ากว่า 40 ประเทศ March 23, 2023
  • เตรียมพบกับงานแฟร์ครั้งยิ่งใหญ่ THAIFEX-Anuga Asia 2023 March 22, 2023
  • เฟ้นหาสุดยอดนวัตกร สร้างสรรค์นวัตกรรม กับการประกวด “รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2566” March 21, 2023
  • THAI PACKAGING NEWSLETTER #158 March-April 2023 March 17, 2023
  • “เบทาโกร” เปิดตัวโรงงานอาหารสัตว์หนองบุญมาก ก้าวสู่ Smart Factory แห่งแรก ชูโมเดลต้นแบบนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนการผลิตและระบบบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ March 16, 2023
  • ไปรษณีย์ไทย-สมาคมการตลาด เฟ้นหาไอเดียสุดเจ๋ง เพื่อสร้างสรรค์ทิศทางแบรนด์ March 14, 2023

Search

TECHNOLOGY MEDIA CO.,LTD.

471/3-4 Phayathai Place, Sri-Ayutthaya Road, Tung Phayathai Ratchatewi, Bangkok 10400

Tel. 0-2354-5333, 0-2644-4555

thaipackaging.mkt@gmail.com

Copyright © 2023 · Magazine Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in