เทศกาลลอยกระทง เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 โดยในปีนี้ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งคนไทยมีความเชื่อว่าการลอยกระทงเพื่อสำนึกถึงบุญคุณของแม่น้ำที่ได้ให้อาศัยน้ำกินน้ำใช้
อย่างไรก็ตามตลอดหลายปีมานี้ มีการรณรงค์ให้งดลอยกระทงในแหล่งน้ำ เนื่องจากมองว่าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต ซึ่งทางดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) เปิดถึงมุมมองประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่ทำกันมาตั้งแต่โบราณ อีกทั้งในช่วงเวลานี้ภาครัฐกำลังสนับสนุนประเพณีต่างๆ ของไทย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งโอกาสในการส่งเสริมเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม จึงคิดว่าวิธีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ คือการจัดการรับมือและหาทางออกให้เหมาะสมในการทำอย่างไรให้อนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
“ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากค่ำคืนลอยกระทงก็คือ เรื่องของการจัดการปริมาณกระทงที่จัดเก็บและที่จัดเก็บไม่หมดจะกลายเป็นขยะจำนวนมาก ส่วนเรื่องปัญหาน้ำเสียถือว่าไม่ได้เป็นปัญหาหลักของการลอยกระทง เพราะปัญหาน้ำเน่าเสียสาเหตุหลักคือการใช้น้ำของกิจกรรมผู้คน ดังนั้นหากพูดถึงเรื่องของปริมาณกระทงที่กลายเป็นขยะตกค้างนั้น มองว่าควรมีแนวทางในการขอความร่วมมือและบริหารจัดการที่ดี โดยลดปริมาณกระทง การทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ” ดร.วิจารย์ กล่าว
สำหรับแนวทางที่ TEI แนะนำในการสืบสานวัฒนธรรมไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยการเลือกใช้กระทงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมย่อยสลายได้ โดยเลือกใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติที่หาได้จากพื้นที่ เช่น หยวกกล้วย กาบกล้วย ใบตอง ดอกบัว โดยกระทงจากวัสดุเหล่านี้สามารถจัดเก็บและนำไปกำจัดได้ง่ายดายหลังเสร็จสิ้นงาน และควรทำกระทงขนาดที่เหมาะสมไม่ใหญ่จนเกินไป หรือหากจัดเก็บไม่ได้บางส่วนก็จะค่อยๆ ย่อยสลายเองตามธรรมชาติได้
งดการใช้วัสดุที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ ลวด แม็กซ์ เข็มหมุด ตะปู เพราะอาจหลุดตกลงสู่แม่น้ำ เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ และเป็นกระทงที่ยากต่อการคัดแยกเพื่อนำไปจัดการอย่างถูกวิธี ดังนั้นควรใช้วัสดุไม้กลัดที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติ หรือไม่ควรใส่เหรียญ นอกจกานี้งดการใช้วัสดุพลาสติกและโฟม เพราะเป็นวัสดุย่อยสลายยาก พลาสติกบางชิ้นและโฟม ไม่เหมาะในการนำไปรีไซเคิล เนื่องจากใช้เวลาย่อยสลายหลายร้อยปี หากเล็ดลอดออกสู่สิ่งแวดล้อม
แนะนำกระทงเดียวลอยด้วยกัน เพื่อลดปริมาณกระทงก็เชิญชวนและรณรรงค์ให้ใช้กระทงน้อยลง โดยหนึ่งครอบครัว หนึ่งกระทง หรือ หนึ่งกลุ่มเพื่อนหนึ่งกระทง
สำหรับสถิติจำนวนการจัดเก็บขยะกระทง กทม. 4 ปีที่ผ่านมา คือ
- ปี 2564 จัดเก็บได้ 403,235 ใบ ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่าย 96.5% จากโฟม 3.5%
- ปี 2563 จัดเก็บได้ 492,537 ใบ ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่าย 96.4% จากโฟม 3.6%
- ปี 2562 จัดเก็บได้ 502,024 ใบ ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่าย 96.3% จากโฟม 3.7%
- ปี 2561 จัดเก็บได้ 841,327 ใบ ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายง่าย 94.7% จากโฟม 5.3%