เต็ดตรา แพ้ค ประกาศแผนงานที่ครอบคลุมแนวทางปฏิบัติในการขับเคลื่อนการปฎิรูประบบอาหารที่มีความปลอดภัย ยั่งยืน และยืดหยุ่นมากขึ้น ผ่านบทบาทผู้นำอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลง ถือเป็นการต่อยอดการเป็นผู้นำของบริษัทในคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมระดับโลก (Global Dairy Processing Task Force) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มด้านสภาพภูมิอากาศ ‘Pathways to Dairy Net Zero’ โดยมุ่งไปที่การสำรวจเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เป็นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม
ชาร์ลส์ แบรนด์ รองประธานบริหารฝ่ายโซลูชันและเครื่องจักรในกระบวนการผลิต ของเต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า “การปฎิรูประบบอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างอนาคตที่มีศักยภาพ ทุกวันนี้ ระบบดังกล่าวนับว่ายังขาดประสิทธิภาพและไม่มีความยั่งยืน ทั้งยังมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสาม (34%) ทั่วโลก และในขณะเดียวกัน หนึ่งในสามของอาหารที่ผลิตออกมายังคงสูญเปล่าหรือเหลือทิ้ง นอกจากนี้ ระบบอาหารยังไม่ครอบคลุมความต้องการของผู้คน โดย 9% ของประชากรทั่วโลกต้องเผชิญกับความหิวโหย และ 30% กำลังประสบกับการขาดแคลนอาหาร ยิ่งไปกว่านั้น ห่วงโซ่คุณค่าทางอาหารยังเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการทำลายป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งมีการประเมินว่าอุตสาหกรรมนี้จะสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เป็นอันดับสองรองจากเรื่องพลังงาน ปัญหาเรื่องอาหารไม่ใช่สิ่งที่เราจะสามารถมองข้ามไปได้ เราจึงต้องปรับเปลี่ยนระบบเหล่านี้เพื่อรับรองถึงความปลอดภัย ความยืดหยุ่น และความยั่งยืนที่มากขึ้น”
โดยเต็ดตรา แพ้ค ได้กำหนดแนวทางสำคัญ 4 ประการ ในการเร่งการปฎิรูประบบอาหาร และยังได้จัดทำแผนงานและเป้าหมายที่วัดผลได้ในแต่ละแนวทาง ซึ่งสอดคล้องกับการปฎิรูปด้านอาหารที่สำคัญ และการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้ที่ดินที่ Food and Land Use Coalition ได้เสนอไว้ ดังนี้
- สร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ผลิตภัณฑ์นมที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ด้วยการจัดการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการแปรรูปผลิตภัณฑ์นม พร้อมกับสนับสนุนผลผลิต การสร้างผลกำไร และความเป็นอยู่ของเกษตรกรรายย่อย
- สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อให้ได้แหล่งอาหารใหม่ ๆ อาทิ โดยสร้างความหลากหลายด้วยแหล่งโปรตีนทางเลือก เพื่อมาเป็นส่วนเสริมของนมและแหล่งโปรตีนจากสัตว์อื่นๆ
- ลดการสูญเสียและขยะอาหาร ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีแปรรูปอาหารที่ช่วยลดขยะอาหารระหว่างการผลิต รวมถึงโซลูชันใหม่ ๆ เพื่อหาวิธีนำส่วนประกอบที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้จากกระบวนการการผลิตอาหารกลับมาใช้ใหม่ นอกจากนั้น โซลูชันบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อยังช่วยลดขยะอาหารด้วยการยืดอายุผลิตภัณฑ์ที่เน่าเสียง่ายให้เก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องใช้สารกันบูดหรือแช่เย็น ช่วยให้สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ไปได้อย่างกว้างขวาง แม้ในพื้นที่ห่างไกลที่มีโครงสร้างพื้นฐานของการขนส่งและเก็บรักษาด้วยการแช่เย็นไม่เพียงพอ
- เพิ่มการเข้าถึงโภชนาการที่ปลอดภัย ผ่านบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความยั่งยืน ด้วยการออกแบบและปรับใช้โซลูชันบรรจุภัณฑ์อาหารที่มีความยั่งยืน ซึ่งได้ช่วยรักษาคุณภาพอาหารและทำให้มีการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยมากขึ้น
แนวทางนี้มีขึ้นควบคู่ไปกับการเผยแพร่เอกสารนำเสนอข้อมูล (White Paper) ของเต็ดตรา แพ้ค ที่จัดทำร่วมกับ EY Parthenon ซึ่งศึกษาลงลึกถึงข้อกำหนดหลักของระบบอาหาร มุ่งผลักดันความยั่งยืนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทั้งผู้คนและโลกใบนี้ภายในปี 2583
ชาลส์ ให้ข้อสรุปว่า “สำหรับเต็ดตรา แพ้ค แล้ว เราไม่ได้แค่ให้คำมั่นสัญญาไว้เท่านั้น เรากำลังผลักดันให้เกิดวาระการเปลี่ยนแปลงโดยยึดถือหลักฐานประกอบที่ชัดเจน เราตอบรับเข้าร่วมกับภาคเอกชนด้วยการแสดงให้เห็นถึงทั้งความมุ่งมั่นและแผนงานเชิงกลยุทธ์ในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ไม่ว่าจะในที่ประชุม COP28 หรือที่ใด เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม ลูกค้า และผู้นำทางความคิดรายสำคัญ เพื่อช่วยปฎิรูประบบอาหารและขับเคลื่อนไปสู่แนวทางที่ก้าวหน้าต่อไป”