ท็อปส์ ธุรกิจกลุ่มฟู้ดเครือเซ็นทรัล ร่วมมือกับ ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก เปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า 4 ล้อ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% มุ่งสู่การเป็น “Green & Sustainable Retail” นำร่องรถขนส่งไฟฟ้ารวม 10 คัน เพื่อขนส่งกระจายสินค้าจากดีเอชแอล บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส ไปยังร้านท็อปส์ เดลี่ ทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ทางท็อปส์ยังได้วางแผนเพิ่มจำนวนรถเพิ่มอีก 29 คัน ในปี 2567 เพื่อให้ครอบคลุมพ้นที่เพิ่มเติมในต่างจังหวัด นับได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการเดินหน้าสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ร่วมกัน โดยตั้งเป้าไว้ที่การลดคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 13,335 ตันภายใน 5 ปี
สเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฟู้ด เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ท็อปส์มุ่งมั่นที่จะเป็นต้นแบบองค์กรค้าปลีกสีเขียว หรือ Green & Sustainable Retail ตามความต้องการของเซ็นทรัล รีเทล ที่ตั้งเป้าหมายการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ไว้ภายในปี 2593 ซึ่งได้ร่วมมือกับทางดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ ด้วยการเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) ซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จำนวน 10 คัน เพื่อร่วมกันสร้างความยั่งยืนในภาคส่วนการขนส่ง โดยนำร่องใช้ขนส่งกระจายสินค้าของร้านท็อปส์ เดลี่ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมค้าปลีกอาหารด้วยวิสัยทัศน์แห่งอนาคต
นอกจากนี้ ท็อปส์ ได้วางแผนเพิ่มจำนวนรถรวม 29 คัน ภายในปี 2567 ทั้งรถขนส่งอุณหภูมิปกติและรถขนส่งควบคุมอุณหภูมิ และยังได้วางแผนร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อทำลายขีดจำกัดเรื่องสถานีชาร์จ รองรับการกระจายสินค้าสู่พื้นที่จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น นครสวรรค์ และเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2,667 ตันต่อปี รวมแล้วจะสามารถลดได้ถึง 13,335 ตัน ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งเทียบเท่าการปลูกต้นไม้กว่า 150,000 ต้น
สตีฟ วอล์กเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล ซัพพลายเชน กลุ่มธุรกิจประเทศไทย กล่าวถึงความสำคัญของการร่วมมือนี้ไว้ว่า “ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่เราเป็นพันธมิตรกับกลุ่มเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล เราได้นำนวัตกรรมต่างๆ เข้ามาใช้ในการปฏิบัติการทั้งในส่วนของคลังสินค้าและการขนส่ง การเปิดตัวรถขนส่งพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ร่วมกันของเราในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่รถพลังงานไฟฟ้าและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืนคือหัวใจหลักของการขนส่ง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของดีเอชแอล ที่มีเป้าหมายหลักคือการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างมีนัยสำคัญตามแผนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของ ดีเอชแอล กรุ๊ป เราร่วมกันมองหาโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่ตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน และกำหนดอนาคตของโลจิสติกส์เพื่อการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ สร้างความยั่งยืนและความเป็นเลิศให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป”
กว่า 25 ปี ที่ดีเอชแอล ซัพพลายเชน ประเทศไทย และกลุ่มเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และได้ร่วมกันพัฒนาความเป็นเลิศด้านบริการในการตอบสนองอุตสาหกรรมค้าปลีกที่เติบโตอย่างรวดเร็วอย่างมุ่งมั่นต่อการสร้างนวัตกรรมและความยั่งยืน โดยทั้งสองบริษัทจะเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างความสำเร็จให้บริการธุรกิจร้านค้าปลีกด้วยโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น
ซึ่งรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถวิ่งได้ในระยะทางมากถึง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยใช้เวลาชาร์จอย่างเต็มประสิทธิภาพเพียง 40 นาทีเท่านั้น และไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซ ซึ่งทางดีเอชแอลได้ติดตั้งสถานีชาร์จ 3 จุดในบางนา โลจิสติกส์ แคมปัส เพื่อเพิ่มความสามารถการขนส่งสินค้าไปยังท็อปส์ เดลี่ 25 สาขาทั่วกรุงเทพ เป็นการย้ำถึงการให้ความสำคัญในกระบวนการขนส่งและการปฏิบัติการอย่างยั่งยืน
“ท็อปส์ มุ่งหน้าพัฒนาองค์กรควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี โดยเชื่อว่าทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพลังเล็กๆ เพื่อสร้างโลกที่น่าอยู่ได้ จึงได้สานต่อโครงการ “Small Acts Together หรือ 4 พลังเล็กสร้างสุขเพื่อโลกที่ยั่งยืน” ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1) “ดูแลฐานรากผลักดันผู้ผลิต” ผ่านการให้การสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรและ SMEs ให้เกิดการสร้างานสร้างรายได้อย่างยั่งยืน 2) “หมุนเวียน” ส่งต่ออาหารส่วนเกิน ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้งและก๊าซเรือนกระจก 3) “แบ่งปัน” ความสุขและความช่วยเหลือเพื่อสังคมที่ดีขึ้น และ 4) “คิดค้นและสร้างสรรค์” การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการริเริ่มนำรถขนส่งพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบโลจิสติกส์ ถือเป็นการคิดค้นและสร้างสรรค์ในการนำเอาเทคโนโลยี เข้ามาปรับใช้ในกระบวนการการดำเนินธุรกิจเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมขับเคลื่อนสู่การเป็นผู้นำองค์กรค้าปลีกสีเขียวที่ยั่งยืน” สเตฟาน กล่าวสรุป