ในยุคที่ความยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจทั่วโลก แมคโดนัลด์ ประเทศไทย ได้ก้าวเข้าสู่แนวทางใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเปิดตัว “Green Concept Store” 2 สาขาแรกในปี 2567 พร้อมตั้งเป้าใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 100% ภายในปี 2568 โดยเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ และลดการใช้พลาสติกเป็นหลัก เดินหน้าสู่ความยั่งยืนควบคู่ไปกับการเติบโตทางธุรกิจ
แนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการเติบโตของแมคโดนัลด์ ประเทศไทย ที่สร้างสถิติรายได้สูงสุดในรอบ 39 ปี กว่า 7.9 พันล้านบาท ในปี 2567 และยังคงเดินหน้ารุกตลาดไก่ทอดเต็มกำลัง ตั้งเป้าขยายตัวอีก 10% ในปี 2568 ซึ่งจะเป็นปีที่แบรนด์เตรียมเฉลิมฉลอง ครบรอบ 40 ปีในประเทศไทย อย่างยิ่งใหญ่ กับแคมเปญพิเศษ “40th Fanniversary” ที่จะตอกย้ำความเป็นแบรนด์ร้านอาหารจานด่วนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
กิตติวรรณ อนุเวชสกุล ประธานกรรมการบริหารบริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานแมคโดนัลด์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดในปี 2567 สามารถทุบสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยยอดขายสูงถึง 7,957 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2567 เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า สะท้อนความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่เติบโตได้อย่างมั่นคงในฐานะผู้นำอันดับ 1 ตลาดเบอร์เกอร์ในไทย และแผนเชิงรุกตลาดไก่ทอดที่ดันการเติบโตทะลุเป้ากว่า 33%
ทั้งนี้ แมคโดนัลด์ ประเทศไทยได้มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับ 3 ด้านหลัก ได้แก่ ธุรกิจ ลูกค้า และสังคม โดยสร้างการเติบโตผ่านโมเดลธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง เริ่มจากการตอกย้ำ Flagship Value Platform เพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่า โดยนำเสนอชุดอาหารราคาประหยัด เช่น ‘EVM’ (Everyday Value Meals) ราคา 99 บาท และ ‘McSavers 1+1’ ราคา 55 บาท นอกจากนี้ยังเร่งสปีดสร้าง Brand Love ในตลาดไก่ทอด โดยใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านพรีเซนเตอร์ ‘ต้าห์อู๋ x ออฟโรด’ ที่ได้รับความนิยมสูง ทำให้ยอดขายไก่ทอดเติบโตถึง 33% และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มอีก 15% ในปี 2568 ส่วนตลาดเบอร์เกอร์ แมคโดนัลด์ยังคงครองตำแหน่งผู้นำในไทย ด้วยเมนูยอดนิยมอย่าง ‘ดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์’ และ ‘บิกแมค’ พร้อมพัฒนาเมนูใหม่ๆ เช่น ‘มั่งมีเบอร์เกอร์’ และ ‘ซามูไร ดีลักซ์ เบอร์เกอร์’ เพื่อกระตุ้นตลาดและเพิ่มยอดขาย
ด้านการบริการ แมคโดนัลด์ให้ความสำคัญกับพนักงานในฐานะหัวใจหลักของธุรกิจ โดยมุ่งสร้างความสุขให้กับพนักงาน เพื่อให้สามารถส่งมอบบริการที่ดีแก่ลูกค้า พร้อมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้บริการ เช่น การติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติครบทุกสาขา และวางแผนติดตั้งในทุกสาขาใหม่ที่เปิดในปีนี้ นอกจากนี้ยังขยายสาขาทั่วประเทศด้วย 3 คอนเซปต์หลัก ได้แก่ ‘Geometry’ ดีไซน์ทันสมัยสดใส, ‘Essential Ingredients 2.0’ สื่อสารผ่านศิลปะป๊อปอาร์ต และ ‘CUBE’ ที่เน้นกราฟิกดีไซน์ ปัจจุบันมีสาขากว่า 240 แห่ง และวางแผนเปิดเพิ่มอีกกว่า 20 สาขา รวมถึงปรับปรุง 25 สาขาเพื่อรองรับการเติบโต
ในด้านสังคม แมคโดนัลด์เดินหน้าแคมเปญ ‘McHappy Smile’ เพื่อมอบรอยยิ้มให้กับเด็กและเยาวชนผ่านกิจกรรมสนุกๆ และมื้ออาหารอร่อย โดยมีพนักงานจิตอาสาร่วมสนับสนุน และมีเป้าหมายขยายโครงการสู่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นผู้สนับสนุนหลักของ มูลนิธิโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ ประเทศไทย ที่ช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กและครอบครัวมากว่า 24 ปี ผ่านโครงการบ้านพักพิง, หน่วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ และห้องสันทนาการในโรงพยาบาล ปัจจุบันบ้านพักพิงได้ช่วยเหลือกว่า 34,000 ครอบครัว และหน่วยรถทันตกรรมให้บริการเด็กกว่า 56,000 คน
แมคโดนัลด์ตั้งเป้าใช้ บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 100% ภายในปี 2568 โดยเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้และลดการใช้พลาสติก เช่น กระดาษห่อเบอร์เกอร์ และถุงกระดาษที่ได้รับการรับรองจาก ‘Forest Stewardship Council™ (FSC)’ ในปีนี้จะขยายไปสู่กล่องบรรจุภัณฑ์เมนูข้าว ซอส และไก่ทอด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
“ในปีนี้ แมคโดนัลด์มีแผนจะเปิดสาขาภายใต้ Green Concept โดยพิจารณาทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจากการเปิดให้บริการไปแล้ว 2 สาขา พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะโซลาร์ลูฟที่สามารถช่วยลดค่าไฟได้ถึง 10-15% รวมถึง EV Charger ที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ถาดรีไซเคิลที่นำมาใช้ภายในร้านก็ได้รับความนิยมจากลูกค้าเช่นกัน จากกลยุทธ์ที่ดำเนินมา แมคโดนัลด์เชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันการเติบโตให้ทะลุเป้าหมายกว่า 10% ภายในปี 2568 และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเมนูและบริการที่ยอดเยี่ยม เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ในประเทศไทยต่อไป” กิตติวรรณ กล่าวทิ้งท้าย
