
วันที่ 27-30 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัท วันทูวัน ครีเอชั่น จำกัด จัดงานมหกรรมงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมการพิมพ์ครบวงจร The 3 Biggest Exhibitions All of Print 2025 งานที่รวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการพิมพ์ การ์เม้นท์ และบรรจุภัณฑ์ ที่ครบวงงจรที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์งานพิมพ์อย่างยั่งยืน” ภายในงานประกอบด้วย 3 มหกรรมสุดยิ่งใหญ่ ได้แก่ 1. The 12th PrintTech & Signage 2025: พบกับเทคโนโลยีการพิมพ์ วัสดุการพิมพ์ และป้ายโฆษณา ล่าสุด 2. The 9th Garment Screen & Embroidery Expo 2025: สัมผัสจักรปัก พิมพ์สกรีน และสิ่งทอไทย ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณ 3. The 7th Printing & Packaging Expo 2025: เปิดโลกแห่งงานพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอลล์ 9-10

มินท์ธิดา นิธิกรกุลนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วันทูวัน ครีเอชั่น จำกัด กล่าวว่า “งานใน ปีนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการพิมพ์ การ์เม้นท์ และบรรจุภัณฑ์ ที่ครบครัน ที่สุดในประเทศไทย เรามุ่งหวังที่จะให้ผู้เข้าร่วมงานได้อัพเดทเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และคาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 20,000 คน และเม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท”
ภายในงานท่านจะได้พบกับ:
- การจัดแสดงเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลและอิงค์เจ็ท, เครื่องพิมพ์มัลติฟังค์ชั่น Eco-Friendly บริการด้านป้ายโฆษณาและ ดีสเพลย์ LED และหลอดประหยัดพลังงาน
- นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์และวัสดุบรรจุภัณฑ์หลากหลาย
- อุปกรณ์และสมาร์ท เทคโนโลยีสำหรับการ์เม้นท์และสกรีนเสื้อผ้า
- กิจกรรม Workshop จับมือทำ โดยวิทยากรจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
- Workshop เทรดสีที่มาแรงในปี 2025-2026
สำหรับการจัดงานในปีนี้เราได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์งานพิมพ์อย่างยั่งยืน” ซึ่งได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งมั่นที่จะจัดงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- มีการศึกษาและวางแผนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้พลังงานในงาน
- ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- สนับสนุนการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
การจัดการขยะอย่างยั่งยืน
- ใช้วัสดุรีไซเกิล – ฉากบูธ ป้ายโฆษณา และโครงสร้างหลักควรผลิตจากวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
- ลดการใช้กระดาษ – แจกเอกสารในรูปแบบดิจิทัลแทนโบรชัวร์กระดาษ และใช้ QR Code สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
- ระบบจัดการขยะภายในงาน – มีจุดแยกขยะที่ชัดเจน เช่น ขยะรีไซเคิล ขยะเปียก และขยะ ทั่วไป
การสร้างความตระหนักรู้
- มีการจัดกิจกรรมและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม
การนำวัสดุไปใช้ให้เกิดประโยชน์
- วัสดุภายในงานบางส่วนได้มีการนำกลับมาใช้ใหม่ในการจัดงานครั้งต่อไป
- บางส่วนได้มีการนำวัสดุไปมอบแก่มูลนิธิต่างๆและสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เพื่อนำไปเป็นประโยชน์ในการใช้งานหรือต่อยอดในการสร้างรายได้ให้แก่มูลนิธิต่อไป
งานแสดงสินค้าครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีสำหรับการแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด แต่ยังเป็นแบบอย่างของการจัดงานที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการพิมพ์

อภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสายงานสมาชิกสัมพันธ์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมการพิมพ์ สิ่งทอ และบรรจุภัณฑ์ของไทย ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และถือเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ หรือ Supporting Industries ในเกือบทุกอุตสาหกรรม และมีความสำคัญต่อการเพิ่มมูลค่าและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกหลายสาขา นอกจากนี้ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทำให้มีความสามารถในการปรับตัวตามความต้องการของลูกค้า และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์
การจัดงานแสดงสินค้าครั้งนี้ จึงเป็นเวทีสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้ พบกับคู่ค้า และมาอัปเดตเทร็นด์การพิมพ์ สิ่งทอ และบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ ภายใต้แนวคิด “ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์งานพิมพ์อย่างยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการพิมพ์ สิ่งทอ และบรรจุภัณฑ์ ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้น จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นโดยเฉพาะราคากระดาษรีไซเคิล รวมถึงต้นทุนราคาพลังงานและค่าขนส่งที่ยังคงสูงอยู่ รวมถึงมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ทำให้ผู้ผลิตจำเป็นต้องลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ประกอบกับหาแหล่งวัตถุดิบและชัพพลายเออร์ที่สอดคล้องกับมาตรฐาน ดังนั้น ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมฯ ต้องปรับตัวให้สอดรับกับเทร็นด์ผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและต้องขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Green Industry
ทุกอุตสาหกรรม รวมถึงธุรกิจค้าปลีก ให้ความสำคัญกับกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ผลิตสินค้า อุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ได้ประกาศพันธสัญญาด้านความยั่งยืนต่อสาธารณะ เจ้าของแบรนด์ต่าง ๆ หันมาให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสร้างสรรค์สินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดทรัพยากร
การตระหนักรู้ในด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น สร้างกระแสความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Packaging) มากขึ้น ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ สร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ไบโอหรือบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ 100% บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล และบรรจุภัณฑ์กินได้ เป็นต้น อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ จึงพยายามออกแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เน้นรูปแบบ “น้อยแต่มาก” บนพื้นฐานของความจำเป็น และให้ความสำคัญกับ บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ หรือ Smart Packaging ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น การเริ่มนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์,การใช้ QR Code, ป้าย RFID เพื่อระบุเอกลักษณ์สินค้าด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริโภคสัมผัสถึงประสบการณ์แบบปฏิสัมพันธ์ (Interactive Experiences) ทำให้ผู้บริโภคสามารถรับรู้ข้อมูลและคุณภาพของสินค้า นอกจากนี้ ยังให้ประโยชน์แก่ผู้ผลิตในด้านการดำเนินงานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การบันทึกข้อมูลระหว่างการขนส่ง การตรวจสอบ การเก็บรักษาเป็นต้น
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเอง มี “สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อ สิ่งแวดล้อม หรือ TIPMSE” ซึ่งให้ความรู้และแนวทางการจัดการบรรจุภัณฑ์ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ด้วยการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้มีส่วนร่วมในการจัดการบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วไม่ให้เป็นภาระต่อสังคม และพัฒนาแนวทางการจัดการบรรจุภัณฑ์ ด้วยหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตด้วยหลักการ Extended Producer Responsibiity (EPR) เพื่อนำบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วกลับไปเป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรม “สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” หรือ CCI ที่ได้รับการรับรองเป็นหน่วยงานทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และ “สถาบันรหัสสากล” หรือ GS1 Thailand ที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีบาร์โค้ดและ EPC (Electronic Product Code) / RFID (อาร์เอฟไอดี) แก่ภาคอุตสาหกรรม และส่งเสริมให้นำเทคโนโลยี และโซลูชันเหล่านี้ ไปช่วยเชื่อมโยงในทุกภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้องในชัพพลายเชน ตั้งแต่สายการผลิต การขนส่ง และการ ซื้อขาย ซึ่งในงานครั้งนี้ทาง GS1 Thailand ได้มาออกบูธเพื่อมาเผยแพร่องค์ความรู้ด้านนี้ให้กับ ผู้ประกอบการอีกด้วย
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีความยินดีและตั้งใจที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม ผ่านแนวคิด 4 GO ซึ่งประกอบด้วย GO Digital & AI, GO Innovation, G0 Global, และ GO Green ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศ


