
พอร์ตโฟลิโอระบบอัตโนมัติและดิจิทัล Tetra Pak® Factory OS™️ นวัตกรรมล้ำสมัยที่ช่วยให้โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่มก้าวสู่ยุคดิจิทัล ด้วยข้อมูลเรียลไทม์เพื่อการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและรวดเร็วยิ่งขึ้น
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เต็ดตรา แพ้ค เปิดตัว Tetra Pak® Factory OS™️ พอร์ตโฟลิโอระบบอัตโนมัติและดิจิทัลเจเนอเรชันใหม่ (Automation and Digitalisation: A&D) ภายในงานแสดงอุตสาหกรรมระดับโลก Gulfood Manufacturing ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศดูไบ โดยโซลูชันโรงงานอัจฉริยะดังกล่าวออกแบบบแนวคิดโมดูลาร์ให้มีความยืดหยุ่น เปิดกว้าง และสามารถรองรับการขยายขนาดได้ เพื่อยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและเครื่องดื่มทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมวางรากฐานสำคัญสำหรับโรงงานที่พร้อมรองรับเทคโนโลยี AI (AI-ready Factory) ในอนาคต
ประเทศไทยได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านประเทศที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและเน้นคุณค่าโดยอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงและการผลิตอัจฉริยะเป็นกลไกสำคัญ อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลภาคอุตสาหกรรมล่าสุดของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) พบว่าอุตสาหกรรมไทยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับ Industry 2.0 ซึ่งหมายถึงการใช้เครื่องมือดิจิทัลขั้นพื้นฐานเท่านั้น ขณะที่หลายภาคส่วนยังคงดำเนินงานด้านการผลิตและการออกแบบอยู่ในระดับ Industry 1.0 ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล รวมถึงในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การปรับสู่โรงงานอัตโนมัติและการเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบจะมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสามารถแข่งขันในตลาดโลก
งานวิจัยเชิงเปรียบเทียบพบว่าโรงงานเครื่องดื่มที่มีการใช้ระบบอัตโนมัติในระดับสูง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องจักรโดยรวมได้มากขึ้นถึง 20% ลดการสูญเสียผลิตภัณฑ์ลง 45% และลดการหยุดไลน์การผลิตได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับโรงงานที่ใช้ระบบอัตโนมัติน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตจำนวนมากยังคงเผชิญความท้าทายในการนำระบบอัตโนมัติมาใช้ภายในโรงงาน เนื่องจากขาดความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและมีข้อจำกัดในการเข้าถึงผู้ให้บริการโซลูชันแบบครบวงจรที่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างแท้จริง พอร์ตโฟลิโอใหม่ Tetra Pak® Factory OS™️ เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ ด้วยการผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความเชี่ยวชาญเชิงลึกในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อช่วยผู้ผลิตรับมือกับแรงกดดันด้านต้นทุน บรรลุเป้าหมายความยั่งยืน และเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอนาคต

หัวใจสำคัญของพอร์ตโฟลิโอรุ่นนี้คือ “แพลตฟอร์มบูรณาการข้อมูล (Data integration platform)” ที่ใช้เทคโนโลยีแบบเปิด พร้อมระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมระดับโลก เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ภายในโรงงานเข้าด้วยกัน และจัดระเบียบข้อมูลที่กระจัดกระจายแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มสามารถรักษาคุณภาพสินค้าอย่างสม่ำเสมอ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดการใช้พลังงาน และลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด (TCO)
ฌอน ซิมส์ รองประธานฝ่ายระบบอัตโนมัติและโซลูชันของเต็ดตรา แพ้ค กล่าวว่า “ปัจจุบัน ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มต้องกับเผชิญแรงกดดันอย่างมากทั้งจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำ ใช้พลังงาน หรือการลดของเสีย จนไปถึงการรักษาคุณภาพและควบคุมต้นทุน พอร์ตโฟลิโอ Tetra Pak® Factory OS™️ ของเราช่วยแปลงความซับซ้อนของข้อมูลให้มีความชัดเจน ด้วยระบบจัดการข้อมูลแบบมีบริบท ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการนำ AI มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยระบบอัตโนมัติที่ทรงพลัง ช่วยให้ผู้ผลิตตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในสภาวะตลาดที่ผันผวนมากขึ้น”
ชาร์ลส์ แบรนด์ รองประธานบริหารฝ่ายโซลูชันการผลิตและเครื่องจักรของเต็ดตรา แพ้ค กล่าวเสริมว่า “Tetra Pak® Factory OS™️ ไม่ได้เป็นเพียงพอร์ตโฟลิโอเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของวิสัยทัศน์เต็ดตรา แพ้ค ในการขับเคลื่อนอนาคตของการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โซลูชันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับอนาคตในทศวรรษต่อ ๆ ไป เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตสามารถสร้างโรงงานแห่งอนาคตที่ผสานทั้งความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว”
Tetra Pak® Factory OS™️ ออกแบบมาให้สามารถปรับใช้ได้อย่างยืดหยุ่นตามความพร้อมของแต่ละองค์กร ผู้ผลิตสามารถเริ่มต้นจากการติดตั้งระบบขนาดเล็ก ก่อนขยายไปสู่การติดตั้งที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมปรับแต่งโซลูชันให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละโรงงาน
นอกจากนี้ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลมาตรฐานจากอุปกรณ์เครื่องจักรทุกประเภท ทุกซัพพลายเออร์ ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ เพื่อรองรับการทำงานร่วมกันและการขยายระบบได้อย่างไร้รอยต่อ โซลูชันดังกล่าวยังประกอบด้วยฟีเจอร์สำคัญอื่น ๆ เช่น ฟีเจอร์ประสบการณ์ผู้ใช้แบบรวมศูนย์ (Unified User Experience) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งการและตรวจสอบข้อมูลได้อย่างราบรื่นทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นไลน์การผลิต อุปกรณ์ ไปจนถึงห้องควบคุม ฟีเจอร์ชุดแอปพลิเคชันดิจิทัลสำหรับการตรวจสอบทั้งในด้านวัตถุดิบ คุณภาพ การผลิต และประสิทธิภาพของสินทรัพย์แบบเรียลไทม์ และฟังก์ชันการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในระดับองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการบูรณาการข้อมูลเชิงบริบททั่วทั้งโรงงาน
พอร์ตโฟลิโอนี้พัฒนาขึ้นโดยความร่วมมือกับ Accenture และได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรชั้นนำอย่าง Siemens, Rockwell Automation และ Inductive Automation ทั้งนี้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของเต็ดตรา แพ้ค ด้านการผลิตอาหารคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงให้กับผู้ผลิตอาหารได้
Tetra Pak® Factory OS™️ พร้อมให้บริการแล้วทั่วโลก และจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลและความยั่งยืน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิด “โรงงานแห่งอนาคต” ของเต็ดตรา แพ้ค ได้ที่ เว็บไซต์ www.tetrapak.com/FutureFactory






