• Skip to main content
  • Skip to secondary menu
  • Skip to primary sidebar
  • Skip to footer
Thai Pack Magazine

Thai Pack Magazine

Thai Pack Magazine

  • Home
  • Activity
    • News
    • Events
  • Articles
    • Articles
    • Intrend
    • Focus
    • Special Scoop
    • Special Area
    • เรื่องเล่าคนทำกล่อง
  • E-Book
  • E-Directory
  • About Us
  • Advertise
  • Contact Us

กลุ่มมิตรผล เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ Net Zero ในฐานะผู้นำความยั่งยืนอันดับ 1 ของโลก

March 26, 2024 by Chatticha

กลุ่มมิตรผล ก้าวสู่ผู้นำด้านความยั่งยืนอันดับ 1 ของโลก เป็น Industry Leader ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากผลการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) Score 2023 ซึ่งมีกว่า 9,400 บริษัททั่วโลกเข้ารับการประเมินใน 62 อุตสาหกรรม และกลุ่มมิตรผลได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในรายงานความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook Member 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ตอกย้ำความมุ่งมั่นสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ จนทำให้ได้รับผลการประเมินสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเป้าหมายและการสร้างผลลัพธ์การพัฒนาที่ยั่งยืนจากภาคเกษตรไทยให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าปักหมุดสู่การเป็นองค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050

บรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มมิตรผลที่เราให้ความสำคัญและลงมือปฏิบัติจริงมาโดยตลอด ซึ่งจากการที่กลุ่มมิตรผลเติบโตมาจากภาคเกษตร ทำให้เราตระหนักเป็นอย่างดีว่าภาคอุตสาหกรรมนี้มีความเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก ตั้งแต่ต้นทางของวัตถุดิบการเกษตร จนถึงผู้บริโภค เราจึงใช้แนวคิด “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ (Grow Together)” ในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่แรก และปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป พร้อมยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานโลกในหลากหลายมิติด้วยการใช้ความรู้ด้านการวิจัย เทคโนโลยีดิจิตอล และนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ามาช่วยบริหารจัดการ โดยเฉพาะมาตรฐานด้านความยั่งยืนระดับโลกที่กลุ่มมิตรผลได้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (CSA)

ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินแบบเดียวกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีการประเมินผล Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) โดย S&P Global เช่นเดียวกัน ซึ่งจากการเข้าร่วมการประเมิน ทำให้เราเห็นโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานในมิติต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น จนสามารถพัฒนาอันดับได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากอันดับ 17 ในการเข้าร่วมการประเมินครั้งแรกเมื่อ 6 ปีก่อน จนได้รับอันดับ 2 ในปีที่แล้ว และอันดับ 1 ในปีนี้ โดยแนวคิดเบื้องหลังการพัฒนางานด้านความยั่งยืนทั้งหมดนี้คือความเชื่อที่ว่าเราไม่สามารถเติบโตบนโลกนี้ได้เพียงลำพัง เราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการพัฒนาภาคเกษตรไทยให้เป็นแหล่งผลิตอาหารและพลังงานทดแทนที่มั่นคง รวมถึงโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคมต่อไป

โดยการประเมิน S&P Global ในปีนี้ กลุ่มมิตรผลได้คะแนนรวมสูงสุดเป็นอันดับ 1 (Top 1%) และยังทำคะแนนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคม สำหรับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มมิตรผลมีความโดดเด่นจากการดำเนินงานเพื่อลดภาวะโลกร้อน หรือ Climate Actions ที่ได้กำหนดเป้าหมายมุ่งสู่องค์กรที่มีการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี 2050 และได้มีการยื่นการดำเนินงานอย่างเป็นทางการกับ Science Based Targets initiative (SBTi) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่กำกับการดำเนินงานด้าน Net Zero ซึ่งกลุ่มมิตรผลมีแผนงานที่ครอบคลุมและมีการปฏิบัติที่เห็นผลจริงได้อย่างชัดเจน จากการดำเนินงานของอุทยานมิตรผลด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 270,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า นับเป็นคอมเพล็กซ์แห่งแรกของประเทศไทยที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Complex) ผ่านการรับรองโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) โดยมีแนวทางดำเนินการหลัก คือ

1) การใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการหมุนเวียนวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และการใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้า ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 185,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
2) ระบบบริหารจัดการน้ำเสียที่นำเทคโนโลยีการบำบัดแบบตะกอนเร่ง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงมาใช้แทนระบบเดิม ทำให้สามารถนำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ประโยชน์ได้ และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 10,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
3) การชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวน 75,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากคาร์บอนเครดิตที่กลุ่มมิตรผลได้รับจากการเข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ ตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER)

อีกทั้งยังตั้งเป้าขับเคลื่อนอุทยานมิตรผลภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ รวมถึงโรงงานในกลุ่มมิตรผลให้ก้าวสู่การเป็น Carbon Neutral Complex และขยายผลการดำเนินงานเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ลดคาร์บอน ครอบคลุมตั้งแต่การดำเนินงานภายในโรงงาน กลุ่มซัพพลายเชน การชดเชยการปล่อยคาร์บอนฯ ไปจนถึงการลงทุนในธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างพันธมิตรในการเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้กลุ่มมิตรผลยังได้รับผลการประเมินดัชนีชี้วัดความยั่งยืนด้านการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในกลุ่ม Food & Beverage Process จาก CDP (Carbon Disclosure Project) ในระดับ B ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกและภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในระดับ C โดย CDP เป็นองค์กรเพื่อสาธารณประโยชน์ด้านการบริหารการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีมาตรฐานการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สำคัญต่อโลก และยังเป็นองค์กรที่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มต่างๆ ให้ความเชื่อมั่นมากที่สุดองค์กรหนึ่งของโลกอีกด้วย

สำหรับด้านสังคม กลุ่มมิตรผลมุ่งมั่นส่งเสริมเกษตรกรให้มีความรู้ มีทักษะ สามารถปรับตัวให้เท่าทันสถานการณ์ด้านสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ผ่านการถ่ายทอดแนวทางการทำไร่สมัยใหม่ “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ที่นำเทคโนโลยีดิจิตอล และนวัตกรรมการบริหารจัดการ มาผสมผสานให้เป็นแนวทางทำเกษตรที่แม่นยำ เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงรับซื้อใบอ้อยหลังตัดเพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวลและเป็นรายได้เสริมให้เกษตรกรซึ่งเป็นทางหนึ่งในการสนับสนุนให้เกษตรกรตัดอ้อยสด ลดการเผา อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาชุมชนเพื่อสร้างแหล่งอาหารปลอดภัยและสร้างกลุ่มอาชีพให้ชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

กลุ่มมิตรผล ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (SDG Goals) ในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นองค์กร Net Zero ในปี 2050 เพื่อสนับสนุนการแก้ไขภาวะโลกร้อนของประเทศไทยและนานาประเทศทั่วโลก

facebookShare on Facebook
TwitterTweet

Filed Under: Activity, News Tagged With: มิตรผล, Net Zero, อาหาร, กลุ่มมิตรผล, อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร

Primary Sidebar

New E-Book

THAI PACKAGING NEWSLETTER #171 May-June 2025

THAI PACKAGING NEWSLETTER #170 March-April 2025

THAI PACKAGING NEWSLETTER #169 January-February 2025

  • Facebook

ADVERTISING

Footer

Exclusive Clients

Recent

  • อินฟอร์มา เดินหน้าย้าย ProPak Asia 2026 ไป อิมแพ็ค เมืองทองธานี ขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้น 30% ตั้งเป้าปี 2028 ขึ้นเป็นงานระดับโลกของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ June 24, 2025
  • “SPC” ชวนชอป ชิม เช็กอิน! สัมผัสสินค้าใหม่สุดว้าวพร้อมดีลเด็ดและกิจกรรมโดนใจ ในงานสหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29 June 19, 2025
  • Taiwan Excellence มุ่งมั่นนำโซลูชันอัตโนมัติอัจฉริยะพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทยย้ำเจตนารมณ์ “Green Vision, Smart Manufacturing” ที่งาน Manufacturing Expo 2025 June 19, 2025
  • SIG เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อไร้ชั้นอลูมิเนียม รายแรกในอาเซียน ตอบโจทย์การรีไซเคิล 100% June 18, 2025
  • ไต้หวันเปิดตัวแคมเปญ “Go Healthy with Taiwan” เชิญชวนทั่วโลกผนึกกำลังสร้างสุขภาพที่ดีกว่าเดิม June 16, 2025
  • TIPMSE ขับเคลื่อนบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เปิดเวทีชวนคิดก่อนกฎรีไซเคิลโลกบังคับใช้ June 16, 2025
  • GIZ จัดพิธีมอบรางวัล Eco-Design Sparking Innovation Award June 16, 2025

Search

TECHNOLOGY MEDIA CO.,LTD.

471/3-4 Phayathai Place, Sri-Ayutthaya Road, Tung Phayathai Ratchatewi, Bangkok 10400

Tel. 0-2354-5333, 0-2644-4555

thaipackaging.mkt@gmail.com

Copyright © 2025 · Magazine Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in