
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2567 จากการขายและบริการ 183,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,055 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.4% จากไตรมาสแรก โดยปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมขยายธุรกิจไลฟ์สไตล์ เปิดตัวร้าน “found & found” ลุยธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม

ดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ว่ามีรายได้ขายและบริการ 183,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,055 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.4% จากไตรมาสก่อนหน้าโดยปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้น 2.6% กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 1.0% จาก ทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจ Global ปรับเพิ่มขึ้น 23.2% ตามปริมาณจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์และกัมพูชา ส่วนผลการดำเนินการครึ่งแรกของปี 2567 OR มีรายได้ขายและบริการ 361,922 ล้านบาท ลดลง 23,517 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี EBITDA จำนวน 11,016 ล้านบาท ลดลง 121 ล้านบาท หรือลดลง 1.1% โดยลดลงจากกลุ่มธุรกิจ Mobility อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นจากทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจค้าปลีกอื่น ๆ กลุ่มธุรกิจ Global ที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์เป็นหลัก อีกทั้งค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิปรับลดลง 6.1 % นอกจากนี้ ในงวดนี้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ลดลง ส่งผลให้ในครึ่งแรกของปี 2567 OR มีกำไรสุทธิ จำนวน 6,260 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 528 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.2% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.52 บาท

ทั้งนี้ OR ได้จัดตั้งบริษัท OR Health & Wellness (ORHW) ในช่วงไตรมาสที่ 2 เพื่อขยายตลาดสุขภาพและความงาม เสริมความแข็งแกร่งด้านไลฟ์สโตร์ ตอบรับกระแสการดูแลสุขภาพและความงามให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค โดยได้เปิดตัวร้าน found & found ร้านค้าปลีกด้านความงามและสุขภาพ ซึ่งตลาดสินค้าไลฟ์สไตล์เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญของ OR ที่มุ่งสร้างทางเลือกเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบอย่างครบวงจร และ OR มีแผนเปิดรวม 10 สาขาในกลางปี 2568 และตั้งเป้าเปิด 500 สาขาในปี 2030 (พ.ศ.2573)
อีกทั้ง OR ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา value chain ของธุรกิจกาแฟให้สมบูรณ์ เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาการแปรรูปเมล็ดกาแฟให้มีมาตรฐาน และเป็นตลาดรับซื้อผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพด้วยราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) ควบคู่ไปกับการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ประกอบอาชีพผู้ผลิตกาแฟ พร้อมผลักดันโครงการ Café Amazon Park ที่ จ.ลำปาง เพื่อเป็นต้นแบบของการพัฒนา Value Chain ธุรกิจกาแฟเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้้ำอีกด้วย

สำหรับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา OR ได้ร่วมกับเวียตเจ็ท ไทยแลนด์ ในการให้บริการน้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) นำร่องในเที่ยวบิน กรุงเทพฯ – ดานัง ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องไปกับแนวทาง OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในมิติ “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสังคมที่สะอาดและสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) อันเป็นรากฐานสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย OR 2030 อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ OR มีแผนเปิดตัว Community Space ใหม่ ที่ไม่ได้เป็นส่วนประกอบของสถานีบริการน้ำมัน โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการพื้นที่บนพื้นที่ศักยภาพนอก PTT Station เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ตอบโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์ โดยมีแผนเปิดตัว Community Space แห่งแรกในเร็ว ๆ นี้