บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ร่วมกับสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมูลนิธิยุทธสาร ณ นคร จัดงานสัมมนา “ปั้นแบรนด์ให้วิ่ง แพคเกจจิ้งต้องจึ้ง” พร้อมวิทยากรมาร่วมแบ่งปันเคล็ดลับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ด้วยความสร้างสรรค์และตามเทรนด์ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์ทำหน้าที่เป็นตัวแทนแบรนด์ในการสร้างการจดจำของลูกค้า ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความต้องการเชิงลึกของลูกค้า (Customer Insight) และยังต้องเป็นไปได้ในทางธุรกิจ และสำหรับเทรนด์การออกแบบบรรจุภภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้คือ บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Packaging)
บรรจุภัณฑ์ต้องเป็น “รักแรกพบ” และ “ไม่รู้ลืม”
ปิยนุช ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ Co-Founder & Head of Strategies HEAD100 Co., Ltd. ในฐานะอนุกรรมการกลุ่มบริหารการตลาด สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) กล่าวถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ว่ามีบรรจุภัณฑ์เป็นส่วนที่สำคัญ เพราะเป็นจุดสัมผัส (Touch Point) ที่ผู้บริโภคมองเห็น หากออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ดี หรือเรียกว่าเป็น “รักแรกพบ” ของลูกค้าได้แล้วนั้น จะช่วยลดค่าโฆษณา ลดทุนลงไปได้ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ยังต้องสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้แก่ผู้บริโภค เช่น การเปิดใช้งานที่สะดวก ประหยัดการใช้วัสดุ การมีบาร์โค้ดไว้ที่บรรจุภัณฑ์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ เป็นต้น
“เหมือนเราเจอใครสักคน สิ่งแรกที่เราเห็นคือ เสื้อ ผ้า หน้า ผม ต้องประทับใจจากภายนอกก่อน จึงจะเข้าไปสื่อสาร เห็นตัวตนภายใน ซึ่งบรรจุภัณฑ์จะทำหน้าที่นั้น”
นอกจากนี้ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงต้องสวยงามเท่านั้น แต่ต้องเล่าเรื่องราวของแบรนด์ผ่านการสร้างเอกลัษณ์และจุดขายให้โดนใจลูกค้าอย่าง “ไม่รู้ลืม” และต้องสร้างประโยชน์-แก้ปัญหา (Pain Point) ให้กับลูกค้า และสุดท้ายคือการสร้างรายได้ให้กับแบรนด์
“บางแบรนด์ไม่ต้องเห็นโลโก้ เห็นแค่หน้าตาบรรจุภัณฑ์ ก็รู้เลยว่าคือแบรนด์นี้ จากเอกลักษณ์ของรูปทรงบรรจุภัณฑ์ ความโดดเด่นของโทนสีที่ใช้ แพคเกจจิ้งจึงเป็นเหมือนโรงละคร เป็นพื้นที่ของการเล่าเรื่องแบรนด์ เพื่อปิดจ็อบการตลาดให้ได้”
บรรจุภัณฑ์ที่ดี : ถูกใจลูกค้า สอดคล้องเมกะเทรนด์
วรรณา สวัสดิกูล, CEO ของ SilverActif Co., Ltd. และอนุกรรมการ MMG-TMA ได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับเทรนด์ระดับโลกที่ส่งผลต่อธุรกิจในปัจจุบัน โดยความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าและซับซ้อนขึ้น ทำให้ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามไปด้วย รวมถึงการมีปัจจัยจ่าง ๆ ที่เข้ามามีบทบาท ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความตระหนักเรื่องความยั่งยืน (sustainability) และการเติบโตของสังคมสูงวัย (aging society) ซึ่งเป็น “เมกะเทรนด์” ที่นักการตลาดและนักธุรกิจต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
“ความสำคัญของการปรับตัวและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค แต่ยังต้องสอดคล้องกับแนวโน้มใหญ่ ๆ ของโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะในเรื่องของการสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวสำหรับผู้บริโภคผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง”
ปัจจุบัน การออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียดในการออกแบบและสามารถบอกเล่าเรื่องของแบรนด์ได้อย่างดี จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้
บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เทรนด์แรง ตอบโจทย์โลก
สุเมธ บุณยธนพันธ์ Manager – Inspired Studio and Packaging Solutions, SCGP กล่าวว่า ในมุมมองผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ มี 4 เทรนด์ด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มาแรง ได้แก่ 1. บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน 2. การออกแบบเฉพาะเจาะจง สร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ 3. นวัตกรรมวัสดุและบรรจุภัณฑ์ และ 4. สมาร์ทแพคเกจจิ้ง
“เทรนด์บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน พูดกันมานาน แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือดีกรีที่เพิ่มขึ้น ความยั่งยืนหมายถึงการลดการใช้ทรัพยากร ลดการใช้วัสดุ และเพิ่มสัดส่วนของการรีไซเคิล จากแรงกดดันด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม ทำให้แต่ละประเทศตื่นตัว ออกกฎหมายและมาตรการบังคับทั้งการผลิตและขายสินค้าเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งหมายรวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่สินค้าใช้ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ ต้องเร่งปรับตัวตามกติกาการค้าที่เปลี่ยนไป”
โดยความท้าทายในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนคือ บรรจุภัณฑ์ต้องใช้ได้จริง สวยงาม แต่ในขณะเดียวกันต้องเป็นไปได้ทางธุรกิจ การผลิตและการตลาด ต้องตอบโจทย์เจ้าของแบรนด์และผู้บริโภค
บรรจุภัณฑ์ : สินทรัพย์ความยั่งยืนแบรนด์
กฤตวิทย์ เลาหธนาพร Executive Director, M. Water Co., Ltd. บริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มแบรนด์สปริงเคิล ร่วมบอกเล่าถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ดีว่าต้องสามารถแสดงถึงตัวตนของแบรนด์ได้ เพื่อให้เข้าใจถึงผู้บริโภค บรรจุภัณฑ์จึงถือเป็นสินทรัพย์สำคัญที่จะสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์นั้น ๆ ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือ “ต้องทำได้จริง” เช่น ขวดน้ำดื่มสปริงเคิลต้องสามารถเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้จริงทั้งหมดและลดขยะได้จริง ไม่ได้ทำเพื่อการสื่อสารทางการตลาดหรือประชาสัมพันธ์เท่านั้น และต้อง “ไม่อ่อนข้อให้กับข้อจำกัด” ในระหว่างการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ต้องพยายามแก้ไขทุกอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้
“กรณีของสปริงเคิล เราต้องการออกแบบขวดน้ำ Lableless (ไร้ฉลาก) เพื่อลดขยะพลาสติก และสามารถรีไซเคิลได้ 100% แต่สิ่งที่ท้าทายจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องการออกแบบให้สวยงาม แต่เป็นการแสดงข้อความบนบรรจุภัณฑ์ให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เราพัฒนาเทคนิคการยิง inkjet ลงบนผิวขวด เพื่อให้ข้อความสามารถอ่านได้ชัดเจน และหมึก inkjet ที่เราใช้ก็สามารถล้างออกได้ในกระบวนการรีไซเคิลตามปกติ และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนถึงความไม่ประนีประนอมต่อข้อจำกัดของเราในฐานะผู้ผลิตสินค้า เพื่อร่วมลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม” กฤตวิทย์ กล่าว
โดยทั้งหมดนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ เพื่อให้ผู้ประกอบการใช้สื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ของแบรนด์ให้โดนใจผู้บริโภค ขณะเดียวกันยังต้องสามารถผลิต ขนส่ง และทำการตลาดได้ เพื่อปั้นให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ
