
รัฐสภายุโรปได้มีมติแก้ไขข้อกำหนดเรื่องบรรจุภัณฑ์และของเสียจากบรรจุภัณฑ์ โดยได้เรียกร้องให้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือสามารถรีไซเคิลได้ภายในปี 2030 หลังจากพบว่ามีขยะบรรจุภัณฑ์ในสหภาพยุโยปเพิ่มมากขึ้นจาก 66 ล้านตันในปี 2009 เป็น 84 ล้านตันในปี 2021 ทำให้หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันถึงการแก้ไข เนื่องจากจนถึงตอนนี้สหภาพยุโรปยังไม่่มีข้อกำหนดมาตราฐานโลจิสติกส์ทั่วยุโรป
โดยรายงานฉบับใหม่ที่ถูกอนุมัติ ได้รับคะนนสนับสนุนถึง 426 เสียง ได้ข้อสรุปว่าจะต้องลดขยะบรรจุภัณฑ์โดยรวมลง 5% ภายในปี 2030, 10% ภายในปี 2035 และ 15% ภายในปี 2040 และเน้นที่บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่เข้มงวดยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ที่ 10% ภายในปี 2030, 15% ภายในปี 2035 และ 20% ภายในปี 2040
ทั้งนี้ รัฐสภายังต้องการห้ามขายถุงพลาสติกบางชนิดและจำกัดการใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวอย่างเข้มงวด และได้เรียกร้องให้ห้ามใช้ “forever chemicals” ในบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับอาหาร และสนับสนุนให้ใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ซ้ำและแบบรีฟิล
ในขณะที่รัฐสภายุโรปกำลังเตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลแห่งชาติเพื่อสรุปกฎหมายอุตสาหกรรมเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์และแปรรูป เพื่อต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมากขึ้น
ที่มา : Packaging World