
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และไปรษณีย์ไทย เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล เปิดตัวดิจิทัลโพสต์ไอดี (Digital Post ID) ทางเลือกใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากการใช้ชื่อ ที่อยู่ ให้เกิดการระบุตำแหน่ง สถานที่ และการขนส่งแบบ Easy Privacy Security และ Digital Economy อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมอื่นๆ เช่น การพัฒนาเส้นทางขนส่ง การป้องกันการปลอมแปลงตัวตน การเงินและการธนาคาร ฯลฯ
ทั้งนี้ การพัฒนาดิจิทัลโพสต์ไอดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระบบและรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าประชาชนจะมีรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดีของตนเองและเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนภายในปี พ.ศ.2567
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดตัวดิจิทัลโพสต์ไอดี (Digital Post ID)ทางเลือกใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากการใช้ชื่อ-ที่อยู่ ให้เกิดการระบุตำแหน่ง สถานที่ และการขนส่งแบบ Easy Privacy Security และ Digital Economy ช่วยเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมอื่นๆ ต่อยอดจากรหัสไปรษณีย์ที่ใช้ตัวเลข 5 หลัก เช่น การพัฒนาเส้นทางขนส่ง การป้องกันการปลอมแปลงตัวตน การเงินและการธนาคาร เป็นต้นโดยการพัฒนาดิจิทัลโพสต์ไอดี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ และรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าประชาชนจะมีรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดีของตนเอง และสามารถนำมาใช้ส่งพัสดุ สิ่งของและอื่นๆ ได้ภายในปี พ.ศ.2566

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ดีอีเอสและหน่วยงานในสังกัดได้เร่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ของเศรษฐกิจ สังคม และวิถีชีวิตที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในปี พ.ศ.2566 ที่คาดว่าการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของคนทั่วโลกจะต้องพึ่งพาระบบดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เช่น กิจกรรมการเงิน การดำเนินธุรกิจ การลดช่องว่างทางด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ผ่านมา การจัดการข้อมูล การขนส่ง และอื่นๆ ตามยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับนวัตกรรมดิจิทัล ตามแผนแม่บทการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างปี พ.ศ. 2561 – 2565 มีแนวคิดในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการระบุข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ให้เป็นที่อยู่ดิจิทัล หรือเรียกว่า “ดิจิทัลโพสต์ไอดี : Digital Post ID” โดยมอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย ในฐานะหน่วยงานในการกำกับดูแลดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาต่อยอดจากรหัสไปรษณีย์ที่ใช้ตัวเลข 5 หลัก ซึ่งใช้เป็นมาตรฐานการจัดส่งสิ่งของของไทย มากว่า 40 ปี โดยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งให้มีความสามารถระบุตำแหน่งด้วยรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดี ที่สามารถถูกแปลงเป็นพิกัดที่อยู่ของประชาชนภายในประเทศไทยได้ถึงระดับครัวเรือน พร้อมกันนี้ ยังสามารถรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว ของข้อมูลส่วนบุคคลของภาคประชาชน สำหรับ ดิจิทัลโพสต์ไอดีไม่เพียงแค่สร้างประโยชน์ในภาคการขนส่ง หรือการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่ภาคส่วนและกิจกรรมอื่นๆได้อีกหลากหลาย เช่น การพัฒนาเส้นทางขนส่ง การรองรับระบบการขนส่งในอนาคตที่ไม่ใช้คนขับ การป้องกันการปลอมแปลงตัวตน การสนับสนุนสิ่งของช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ในกรณีที่ทราบพื้นที่ประสบภัย น้ำท่วม แผ่นดินไหว การสนับสนุนนโยบายด้านสุขภาพ ช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน จัดเก็บข้อมูลผู้สูงอายุในแต่ละพื้นที่ ส่งเสริมการแพทย์ทางไกลเพื่อลดความแออัดในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล การหาพิกัดสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแต่ละฤดูกาล วางแผนบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร วางผังเมืองและบริหารทรัพยากรธรรมชาติให้เหมาะสม กำหนดเขตเลือกตั้ง ข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ด้านการเงินและการธนาคาร การโฆษณาสินค้าให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะทางเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งประเทศอย่างยั่งยืน และในอนาคตจะขยายการใช้ดิจิทัลโพสต์ไอดีเชื่อมโยงแก่ผู้ประกอบการเอกชนรายอื่นๆ ด้วย

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยได้งบประมาณในการดำเนินการทำดิจิทัลโพสต์ไอดี จำนวนประมาณ 100 ล้านบาท เป็นการต่อยอดใช้รหัสไปรษณีย์ 5 หลัก โดยเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการส่งไปรษณีย์ในประเทศไทยที่ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 มาแปลงเป็นพิกัดที่ตั้งบนพื้นผิวโลกในประเทศไทย ด้วยหลักการทำงานเดียวกับระบบการหาตำแหน่งบนพื้นผิวโลก หรือ GPS โดย 1 คน สามารถมีได้หลายที่อยู่ และสามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่ชั่วคราวในระบบได้เมื่อจำเป็น ต้องเดินทางไปต่างพื้นที่ ทั้งนี้ แต่เดิมรหัสไปรษณีย์ 5 หลักจะบอกได้ถึงเขตพื้นที่เท่านั้น แต่ดิจิทัลโพสต์ไอดีจะระบุได้ถึงพิกัดตำแหน่งด้วยการปักหมุด บอกพิกัดแนวดิ่งได้ทำให้สามารถระบุที่อยู่สำหรับผู้ที่อยู่ในอาคารสูงได้แม่นยำยิ่งขึ้น และที่สำคัญช่วยลดขั้นตอนการทำงานของทั้งคนส่งของและพนักงานไปรษณีย์ในแต่ละพื้นที่อีกทั้งยังช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลบนจ่าหน้า
ป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ที่ถูกต้อง แม่นยำ ซึ่งในขณะนี้ดิจิทัลโพสต์ไอดีอยู่ในระหว่างการพัฒนา ทดลองใช้และคาดว่าจะนำมาใช้ได้จริงในไตรมาสที่ 2 ปี พ.ศ.2566 และภายในปี พ.ศ. 2567 ประชาชนน่าจะมีรหัสดิจิทัลโพสต์ไอดีของตนเองที่จำได้ง่ายมาแทนการเขียนจ่าหน้าแบบเดิมพร้อมกันทั่วประเทศ และเพื่อรองรับการมีดิจิทัลโพสต์ไอดีในอนาคต ที่ทำการไปรษณีย์ หรือผู้ให้บริการโลจิสติกส์จะมีเครื่องพิมพ์ฉลากในรูปแบบ QR Code ที่เป็นดิจิทัลโพสต์ไอดี เพื่อแปะบนซองเอกสาร โดยผู้รับและผู้ส่งมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่หลุด เพราะไม่มีปรากฏบนกล่องหรือซอง แต่ต้องใช้แอปพลิเคชันบนอุปกรณ์อ่าน QR Code เท่านั้นถึงจะโชว์ และเป็นแบบใช้ครั้งเดียว

ดร.ปิยะนุช นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย กล่าวว่าในงานเปิดตัวว่า ระบบดิจิติลไอดี ที่จะเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้สามารถลดทรัพยากรในการทำงานได้เป็นอย่างดี ในฐานะผู้ประกอบการภาคเอกชน มองว่าระบบดิจิทัลโพสต์ไอดี จะเข้ามาส่งเสริมด้านความรวดเร็ว การขนส่งมีความแม่นยำ รวมถึงความปลอดภัยด้านทรัพย์สินและข้อมูลของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพราะการเปลี่ยนรูปแบบแพกเกจจิ้งส่วนนี้เราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เพราะฉะนั้นการข้อมูลเป็นระบบดิจิทัลทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่ง การจัดเส้นทางในการเดินรถที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น ข้อมูลที่ถูกต้องจะส่งผลให้สามารถลดระยะทางในการขนส่งได้ บางครั้งยังสามารถลดจำนวนยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งได้อีกด้วย เมื่อจำนวนยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งลดลง ส่งผลให้มลพิษที่เกิดขึ้นจากการขนส่งลดลงและยังทำให้ต้นทุนในการขนส่งของบริษัทลดลงอีกด้วย นอกจากนี้ ดิจิทัลโพสต์ไอดีไม่เพียงแค่สร้างประโยชน์ในภาคการขนส่ง หรือการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่ภาคส่วนและกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย เช่น การพัฒนาเส้นทางขนส่ง การรองรับระบบการขนส่งในอนาคตที่ไม่ใช้คนขับ การป้องกันการปลอมแปลงตัวตน การสนับสนุนสิ่งของช่วยเหลือเมื่อเกิดภัยพิบัติ ในกรณีที่ทราบพื้นที่ประสบภัย ส่งเสริมการแพทย์ทางไกลเพื่อลดความแออัดในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล การหาพิกัดสถานที่ท่องเที่ยว วางแผนบริหารจัดการพื้นที่การเกษตร ทรัพยากรธรรมชาติ กำหนดเขตเลือกตั้ง ข้อมูลผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง รวมถึงด้านการเงินและการธนาคาร และส่วนอื่น ๆ อีกด้วย

ในฝั่งของระบบออนไลน์ วันนี้ได้รับเกียรติจาก คุณ ระชาวีย์ พูลสวัสดิ์ Influencer หรือ RIREW เสื้อผ้าแฟชั่น เจ้าของเฟซบุ๊กเพจที่เป็นกระแสนิยมและเป็นที่น่าเชื่อถือของลูกค้า กล่าวว่า การมีระบบดิจิทัลโพสต์ไอดี เป็นการเปลี่ยยนแปลงครั้งใหญ่ที่ช่วยเรื่องการลดปริมาณของเวลาได้ดีขึ้น จากที่เมื่อก่อนใช้กำลังพลในการทำงานจำนวนมาก อีกทั้งพบข้อผิดพลาดในเรื่องข้อมูลของลูกค้าที่ไม่ชัดเจน เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากที่สุด เพราะฉะนั้นระบบ ดิจิทัลโพสต์ไอดีจะเข้ามาพัฒนาข้อผิดพลาดที่มักพบบ่อยครั้ง และโยงไปถึงเรื่องของ PDPA ทั้ง ชื่อ ที่อยู่ การระบุตำแหน่ง สถานที่ เป็นต้นข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง จะเข้ามาช่วยพัฒนาสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้ปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาเส้นทางขนส่ง การป้องกันการปลอมแปลงตัวตน ยุคนี้การเปิดเผยตัวตนต่อสาธารณะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก การคุยแช็ตกับลูกค้าจะมีบันทึกโน้ตไว้หน้ากล่องพัสดุผู้รับ บางอย่างเรามองเป็นเรื่องที่เล็กน้อยแต่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และความรู้สึกของลูกค้า ในฐานะแม่ค้าออนไลน์จะเป็นกระบอกเสียงและช่วยแชร์ข้อมูลให้ลูกค้าเข้าใจในระบบดิจิทัลโพสต์ไอดี อีกเสียงด้วย
การขนส่งแบบ Easy Privacy Security และ Digital Economy ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบระบบและรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเริ่มใช้ภายในปี พ.ศ.2566