• Skip to main content
  • Skip to secondary menu
  • Skip to primary sidebar
  • Skip to footer
Thai Pack Magazine

Thai Pack Magazine

Thai Pack Magazine

  • Home
  • Activity
    • News
    • Events
  • Articles
    • Articles
    • Intrend
    • Focus
    • Special Scoop
    • Special Area
    • เรื่องเล่าคนทำกล่อง
  • E-Book
  • E-Directory
  • About Us
  • Advertise
  • Contact Us

SCGP ปี 2565 ทำรายได้ 1.46 แสนล้าน เติบโตร้อยละ 18 กางแผนปี 66 เน้นลงทุนธุรกิจศักยภาพสูง เพิ่มนวัตกรรมและโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร รับเศรษฐกิจฟื้น

January 26, 2023 by Nophamas Sudta

SCGP เผยการดำเนินงานปี 2565 มีรายได้จากการขาย 146,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากการควบรวมกิจการกับพันธมิตรชั้นนำศักยภาพสูง (M&P) การขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ส่วนกำไรลดลงจากผลกระทบด้านปริมาณขายลดลงและราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น มองภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ปีพ.ศ. 2566 มีแนวโน้มดีขึ้นหลังจีนเปิดประเทศ ชู 5 กลยุทธ์สร้างธุรกิจแข็งแกร่งรับเศรษฐกิจฟื้นตัว ได้แก่ การขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่มีโอกาสเติบโตสูง การพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันบรรจุภัณฑ์ครบวงจร การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งห่วงโซ่อุปทาน การวางแผนบริหารจัดการเชิงรุกและการชับเคลื่อนธุรกิจด้วย ESG 4 Pเus ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตต่อเนื่องที่ 160,000 ล้านบาท

วิชาญ จิตร์ภักดี

วิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาซน) หรือ SCGP เปิดเผยถึงการดำเนินงานปีพ.ศ. 2565 ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความท้าทายจากปัจจัยต่างๆ โดยมีรายได้จากการขาย 164,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีก่อน ผลจากการวางกลยุทธ์ขยายกำลังการผลิตและการควบรวมกิจการกับพันมิตร (M&P) การรับรู้รายได้เต็มปีจากการรวมผลประกอบการของบริษัทที่ M&P ได้แก่ Duy Tan, Intan Group และ Deltalab การรับรู้รายได้จาก Peute และ Jordan และการปรับราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วน EBITDA เท่ากับ 19,402 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8 จากปีก่อน และมีกำไรสำหรับปี 5,801 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 30 จากปีก่อน จากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงการลดลงของปริมาณการขายและอุปสงค์กระดาษบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกจากสถานการณ์เศรษฐกิจ และในภูมิภาคจากการล็อกดาวน์ของประเทศจีน

ขณะที่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 SCGP มีรายได้จากการขาย 33,509 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 5 มี EBITDA อยู่ที่ 3,554 บาท ลดลงร้อยละ 34 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสำหรับงวด 450 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 79 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากความต้องการและราคาขายบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ในประเทศอินโดนีเซียและประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าในกลุ่มบรรจุภัณฑ์เพื่อการอุปโภคบริโภคของประเทศในภูมิภาคอาเซียน ทั้งบรรจุภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์ เช่น บรรจุกัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ยังเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการทยอยเปิดประเทศ

SCGP ได้กำหนดแผนเงินลงทุนไว้ 100,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (2564-2568) เพื่อบรรลุเป้าหมายรายได้ 200,000 ล้านบาท ในปีพ.ศ. 2568 โดยในปี 2564-2565 SCGP ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 37,000 ล้านบาท ในการลงทุนและขยายกำลังการผลิตในธุรกิจที่มีศักยภาพและมีโอกาสเติบโต ทำให้ SCGP สามารถสร้างรายได้และผลตอบแทนที่สูงท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย สะท้อนถึงโมเดลธุรกิจและทิศทางการดำเนินธุรกิจของ SCGP ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม สามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้ SCGP ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปีพ.ศ. 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท โดยปริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลงวดระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในอัตราคุ้นละ 0.35 บาท ในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2566 ตามรายชื่อ ณ วันกำหนด รายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2566 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2566

วิชาญ กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2566 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากจะได้รับปัจจัยบวชจากการที่จีนเริ่มเปิดประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การนำเข้าและส่งออก ตลอดจนห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่กลับสู่ภาวะปกติ สงผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยสินค้าต่างๆ ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังคงมีความท้าทายจากเศรษฐกิจทั่วโลกที่ผันผวนอย่างต่อเนื่อง แรงกดดันด้านเงินเอซึ่งอยู่ในระดับสูง และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย รวมถึงความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงในหลายภูมิภาค เช่น กลุ่มสหภาพยุโรปและประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหญ่ของภาคธุรกิจอาเชียน

SCGP ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรองรับความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ รวมถึงเร่งดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ 160.000 ล้านบาทด้วย 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

1. สร้างการเติบโตจากการ M&P และการขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และมองโอกาสขยายสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่มีศักยภาพสูง โดยมุ่งเน้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และผสานความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างบริษัทย่อย (Synergy) ด้วยการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เทคโนโลยี การขยายฐานลูกค้าและจัดหาวัตถุดิบ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการดำเนินงาน โดยตั้งงบประมาณการลงทุนในปีนี้ที่ 18,000 ล้านบาท

2. การพัฒนานวัตกรรมและโชลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และร่วมมือกับลูกค้าในการพัฒนานวัตกรรมและโชลูชันบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มคุณคำและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ด้วยงบประมาณและค่าใช้จ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนา 800 ล้านบาท

3. การยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Integration) การดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) ด้วยการนำระบบอัตโนมัติ (Automation) มาใช้วิเคราะห์  คาดการณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตและผลิตผล การใช้ Data Analytics เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านข้อมูลทั้งห่วงโซ่อุปทาน (End-to-End)

4. การวางแผนบริหารจัดการเชิงรุกเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน การวางแผนบริหารความเสี่ยงในช่วงที่ภาวะดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้น การบริหารจัดการเงินสด และงบประมาณการลงทุน (CAPEX) อีกทั้งยังมีการกระจายฐานลูกค้าหลากหลายประเทศและกลุ่มอุตสาหกรรม การมองหาตลาดใหม่แถบตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และแอฟริกาใต้

5. ขับเคลื่อนด้วยแนวคิด ESG 4 Plus โดยมีเป้าหมายและแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนที่จะเพิ่มสัดส่วนบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ทั้งหมดร้อยละ 100 จากปริมาณบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดในปี พ.ศ. 2568 พร้อมทั้งการดำเนินการตามแผนเพื่อที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2593

facebookShare on Facebook
TwitterTweet

Filed Under: News Tagged With: SCGP, อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์, ESG4 Plus

Primary Sidebar

New E-Book

THAI PACKAGING NEWSLETTER #171 May-June 2025

THAI PACKAGING NEWSLETTER #170 March-April 2025

THAI PACKAGING NEWSLETTER #169 January-February 2025

  • Facebook

ADVERTISING

Footer

Exclusive Clients

Recent

  • อินฟอร์มา เดินหน้าย้าย ProPak Asia 2026 ไป อิมแพ็ค เมืองทองธานี ขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้น 30% ตั้งเป้าปี 2028 ขึ้นเป็นงานระดับโลกของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ June 24, 2025
  • “SPC” ชวนชอป ชิม เช็กอิน! สัมผัสสินค้าใหม่สุดว้าวพร้อมดีลเด็ดและกิจกรรมโดนใจ ในงานสหกรุ๊ป แฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29 June 19, 2025
  • Taiwan Excellence มุ่งมั่นนำโซลูชันอัตโนมัติอัจฉริยะพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทยย้ำเจตนารมณ์ “Green Vision, Smart Manufacturing” ที่งาน Manufacturing Expo 2025 June 19, 2025
  • SIG เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อไร้ชั้นอลูมิเนียม รายแรกในอาเซียน ตอบโจทย์การรีไซเคิล 100% June 18, 2025
  • ไต้หวันเปิดตัวแคมเปญ “Go Healthy with Taiwan” เชิญชวนทั่วโลกผนึกกำลังสร้างสุขภาพที่ดีกว่าเดิม June 16, 2025
  • TIPMSE ขับเคลื่อนบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน เปิดเวทีชวนคิดก่อนกฎรีไซเคิลโลกบังคับใช้ June 16, 2025
  • GIZ จัดพิธีมอบรางวัล Eco-Design Sparking Innovation Award June 16, 2025

Search

TECHNOLOGY MEDIA CO.,LTD.

471/3-4 Phayathai Place, Sri-Ayutthaya Road, Tung Phayathai Ratchatewi, Bangkok 10400

Tel. 0-2354-5333, 0-2644-4555

thaipackaging.mkt@gmail.com

Copyright © 2025 · Magazine Pro on Genesis Framework · WordPress · Log in