
เอส ไอ จี กรุ๊ป ผู้นำการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 25 ปี โรงงานบรรจุภัณฑ์ของบริษัทที่จังหวัดระยอง โดยปีนี้ยังเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่โรงงานแห่งนี้ได้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครบรอบ 5 ปี นับตั้งแต่มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในโรงงาน ซึ่งช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 12,871 ตัน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 เทียบเท่ากับการชดเชยการปล่อย CO2 ด้วยต้นไม้กว่า 280 ถึง 415 ต้น หรือเทียบเท่าผืนป่าขนาด 10,000 ตารางเมตร
โรงงานเอสไอจี จังหวัดระยอง เริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 บนพื้นที่กว่า 109,600 ตารางเมตร พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในเอเชียแปซิฟิกและเอเชียใต้ โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย โรงงานแห่งนี้มีการผลิตบรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อถึงราว 11,000 ล้านกล่อง ให้กับแบรนด์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นโรงงานผลิตของเอส ไอ จี แห่งแรกในโลกที่ใช้ระบบโซลาร์โฟโตวอลเทอิก (photovoltaic หรือ PV) ที่มีประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานจนทำให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพลังงานของไทย พ.ศ. 2579 ที่กำหนดให้ใช้พลังงานไฟฟ้า 40% จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน โดยโรงงานเอสไอจี จังหวัดระยอง มีแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 12,350 แผง บนพื้นที่กว่า 40,064 ตารางเมตร (เปรียบเทียบได้เท่ากับสนามฟุตบอล 5 สนาม) สามารถผลิตกำลังไฟฟ้าได้ 5,675 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี หรือเทียบเท่ากับการจ่ายไฟให้แก่บ้านที่อยู่อาศัย 5,620 หลังคาเรือนในแต่ละเดือน

แอนเจลา ลู ประธานและผู้จัดการทั่วไปของเอส ไอ จี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า “โรงงานบรรจุภัณฑ์ของเอส ไอ จี ในอาห์เมดาบัด ประเทศอินเดีย ที่คาดว่าจะเดินสายการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 เพื่อป้อนลูกค้าในแถบเอเชียใต้ จะช่วยให้โรงงานที่ระยองสามารถทุ่มเทกับโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่เน้นความยั่งยืนได้มากยิ่งขึ้นเพื่อลูกค้าในเอเชียแปซิฟิกของเรา”

ด้าน มิสเตอร์มิเกล กามิโต ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตและซัพพลายเชน โรงงานเอส ไอ จี จังหวัดระยอง กล่าวว่า “โรงงานบรรจุภัณฑ์ของเอส ไอ จี ที่ระยองมีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิตโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนแก่ตลาดหลักในภูมิภาค โรงงานแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค อันแสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการลดคาร์บอนฟุตพรินต์และเดินหน้าสู่การเป็นบริษัทที่ตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อมมากกว่าการเป็นฝ่ายรับ (net-positive)” พร้อมกล่าวเสริมว่า “เนื่องในวาระครบรอบ 25 ปี เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ตอบแทนชุมชนในจังหวัดระยองและทำหน้าที่อย่างดีในการส่งเสริมความยั่งยืนในภูมิภาค”
ปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา โรงงานแห่งนี้ได้รางวัลฉลากลดโลกร้อนของ Thailand Energy Award จากโครงการโซลาร์รูฟท็อป อันเป็นรางวัลจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โดยมอบให้กับเอสไอจี ที่ได้ลงทุนจัดตั้งโครงการพลังงานทดแทนประเภทที่ไม่เชื่อมโยงกับระบบสายส่งไฟฟ้า (off-grid) ที่จังหวัดระยองนอกจากแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาแล้ว ยังมีฟาร์มโซลาร์เซลล์และโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงจอดรถอีกด้วย เปรียบได้ว่าโรงงานแห่งนี้มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ของไทย ปัจจุบันโรงงานสามารถผลิตบรรจุภัณฑ์โดยใช้วัสดุกระดาษแข็งที่ผ่านการจัดหาอย่างตระหนักต่อความรับผิดชอบที่ได้รับการรับรอง 100% จาก FSC (Forest Stewardship Council) รวมถึงอลูมิเนียมที่ได้รับการรับรอง 100% จาก ASI (Aluminium Stewardship Initiative) ภายใต้มาตรฐาน ISCC Plus (International Sustainability and Carbon Certification) เป็นมาตรฐานรับรองคาร์บอน และการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างประเทศ

เอสไอจี เป็นผู้นำการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ปลอดเชื้อ บรรจุภัณฑ์แบกอินบ๊อก และบรรจุภัณฑ์แบบถุง/ซองพร้อมฝา เทคโนโลยีและความสามารถทางด้านนวัตกรรมที่โดดเด่นของบริษัท ทำให้เราสามารถจัดหาโซลูชันแบบครบวงจรแก่ลูกค้า ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไปจนถึงด้านโรงงานอัจฉริยะและบรรจุภัณฑ์ที่ให้ข้อมูลดิจิทัล ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความยั่งยืนถือเป็นส่วนหนึ่งในการมุ่งมั่นเดินหน้าตามแนวทาง “Way Beyond Good” เพื่อสร้างระบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่ตอบแทนสังคมและสิ่งแวดล้อม