
กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนแห่งประเทศไทยและมูลนิธิเพื่อส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืนแห่งเอเชียแปซิฟิก จัดการประชุมเสวนาการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน หัวข้อ “ก้าวสู่ Net zero ประเทศไทยไร้มลพิษพลาสติก” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการจัดการปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกด้วเศรษฐกิจหมุนเวียนในเชิงธุรกิจ เพิ่มพูนองค์ความรู้ นวัตกรรม ด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียนของเครือข่าย สนับสนุนความสำเร็จการบรรลุเป้าหมายของประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) เกิดการจัดการสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

โดยปัจจุบัน ปัญหามลพิษจากพลาสติกเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก จากข้อมูลสถิติพบว่าทั่วโลกผลิตขยะพลาสติกปีละ 8-10 ล้านตัน และคาดว่าอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีขยะพลาสติกสูงขึ้นกว่าปีละ 30 ล้านตัน ทางองค์การสหประชาชาติจึงได้จัดทำกฎระเบียบระหว่างประเทศด้านการควบคุมมลพิษจากพลาสติก เป็นข้อตกลงมีผลผูกผันทางกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยการควบคุมและยุติมลพิษจากขยะพลาสติกขององค์การสหประชาชาติ และประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีปัญหาขยะทางทะเล โดยมีอัตราสร้างขยะพลาสติกประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี มีส่วนที่ถูกจัดการอย่างเป็นระบบและรีไซเคิลได้เพียง 25% ที่เหลืออีก 75% ถูกนำไปฝังกลบ เผา หรือกองทิ้งเล็ดลอดออกสู่คลอง แม่น้ำ และปลายทางที่ทะเล ซึ่งทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงปัญหาและตระหนักถึงปัญหามลพิษ จึงได้จัดทำ Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของประเทศ พ.ศ. 2561-2573 เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกของประเทศ เป้าหมายเพื่อ ลดและเลิกใช้พลาสติกเป้าหมายด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ ได้ร้อยละ 100 ภายในปี 2570 และเป้าหมายนี้สอดคล้องกับความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายของประเทศไทย สู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ในงานเสวนา ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ในฐานะนายกสมาคมและประธานเครือข่ายส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (ประเทศไทย) ได้ให้เกียรติมาร่วมบรรยายพิเศษ หัวข้อ “Net Zero มลพิษพลาสติก วาระไทยและวาระโลก” โดยกล่าวว่า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โลกที่ยั่งยืน คือความสมดุลของเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ทั้งหมด 17 เป้าหมาย โดยประเทศไทยทำได้ดีในเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน อันดับที่ 3 ของเอเชีย อันดับที่ 43 ของโลก (moon unwell) แต่ในขณะเดียวกันประเด็นสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับขยะ เป้าหมายที่ 14 ประเทศไทยยังมีปัญหา เพราะเวลาประเมินจะมองถึงระบบการจัดการขยะว่ามีมากน้อยแค่ไหนที่จัดการได้ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้มีเพียง18 % ที่เหลือก็ถูกพัดลงทะเลและกลายเป็นขยะพลาสติก โดยเฉพาะการปนเปื้อนของไมโครพลาสติกในทะเล จึงทำให้ประเทศไทยถูกจัดให้มีขยะพลาสติกอันดับ 6 ของโลก ดังนั้นหนึ่งในการแก้ไขปัญหาคือการทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นประเด็นสำคัญที่ตอบโจทย์หลายด้าน เช่น การจัดการพลาสติกทำอย่างไรให้เข้าระบบได้ ทั้งการลดใช้ทรัพยากร ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในขณะเดียวกันต้องมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่นการเกิด Star up” พร้อมยกตัวอย่างทิศทางการบริหารจัดการมลพิษพลาสติกของประเทศไทย อาทิเช่น โครงการ PPP Plastics (โครงการภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการจัดการขยะและขยะพลาสติก โดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ขับเคลื่อนโครงการนำร่องหลายโครงการเพื่อจัดการขยะพลาสติกครบวงจร ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เช่น โครงการการจัดการขยะและขยะพลาสติกในเมืองที่เขตปทุมวัน และเขตคลองเตย รูปแบบบริการทั้งจังหวัด ที่ระยอง หรือ การจัดการขยะและขยะพลาสติกในพื้นที่เกาะที่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นต้น

อีกทั้งยังมีการเสวนาในหัวข้อ “สนธิสัญญาพลาสติกโลก การปรับตัวอุตสาหกรรมไทย” โดย วิรัช เกลียวปฎินนท์ ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นวิทยากร และหัวข้อ “ศูนย์กลางขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลาสติกในประเทศไทยเพื่อความเป็นเลิศควบคู่กับการอยู่ร่วมกันกับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” โดยกลุ่มผู้ประกอบสมาชิกอุตสาหกรรมพลาสติก ณัฐนันท์ ศิริรักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด โรงงานพลาสติกรีไซเคิลแบบครบวงจรคุณภาพสูง Food Grade มาตรฐานระดับโลกแห่งแรกในประเทศไทยและมีกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ ฌอเฌอ เทวบริหารตระกูล ผู้จัดการโปรแกรม สถาบันยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อมโลก ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเข้าร่วมประชุมสนธิสัญญาพลาสติกที่ผ่านมาและท่าทีของผู้เข้าร่วมประชุมนานาชาติ

นอกจากนี้ได้มีการประชุมเสวนา “การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน โอกาสเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก ธุรกิจ ชุมชน กรณีศึกษา Start Up แพลตฟอร์ม ธุรกิจชุมชน แฟชั่นแบรนด์ตลาดโลก” โดย เปรม พฤกษ์ทยานนท์ ผู้ก่อตั้ง Green2Get ดิจิตอลแพลตฟอร์ม เครื่องมือให้สามารถเข้าร่วมกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ง่ายที่สุด วิชการ ปลอดกระโทก CEO และ Co-Founder สตาร์ทอัพ Wake Up Waste แอปพลิเคชั่นและรถบีบอัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในกระบวนการจัดเก็บขยะรีไซเคิล ครบวงจรสำหรับอาคารสำนักงาน คอนโด โรงแรม โรงพยาบาล กฤติกา ชัยวิไล ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Earthology Studio แบรนด์ที่นำเทคโนโลยีมาสร้างผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความร่วมมือในสังคม และ นภาพัฒน์ อู่เจริญ ประธานกลุ่มศูนย์บริหารและจัดการขยะรีไซเคิลชุมชนวัดซากลูกหญ้า จังหวัดระยอง
“การเสวนาวันนี้ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมาคือ เดือน Plastic Free July เป็นความพยายามของประชาคมโลกขับเคลื่อนลดมลพิษพลาสติก จะนำไปสู่ได้เรียนรู้รูปแบบธุรกิจในรูปแบบต่างๆของภาคเอกชนไทย สะท้อนศักยภาพของประเทศไทย ที่ผ่านปัญหาอุปสรรค จนขับเคลื่อนเป็นรูปแบบธุรกิจที่ควบคู่การแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติก สามารถพัฒนาคุณภาพสินค้า บริการ และสร้างความโปร่งใสตอบสนองเป้าหมาย Net zero และสร้างโอกาสขยายผลต่อยอดลดปัญหามลพิษพลาสติกของประเทศไทยและภูมิภาค” ดร.วิจารย์ กล่าวทิ้งท้าย