บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group เปิดอาณาจักรธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีในทุกมิติ ภายในงาน Techsauce Global Summit 2024 ด้วยการสร้างสรรค์ WHA Experience Zone สุดล้ำโชว์ไฮไลต์นวัตกรรมและเทคโนโลยีในระบบนิเวศของ WHA ที่ครอบคลุม 4 กลุ่มธุรกิจหลัก – โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล โซลลูชัน พร้อมเผยเบื้องหลังความสำเร็จของการพลิกโฉมองค์กรสู่การเป็น Tech & Sustainable Company เต็มรูปแบบ โดยทีมเทค (Technology) อันแข็งแกร่ง และเผยโฉม “โมบิลิกส์ (Mobilix)” โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรครั้งแรกของไทยที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน
โมบิลิกส์ (Mobilix) พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Drivimg Sustainability in Motion ปฏิวัติการขนส่งสู่ความยั่งยืนด้วยระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรรายแรกของไทย เกิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของ WHA ในการสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของระบบเศรฐกิจ พร้อมมุ่งสร้างเครือข่ายพันธมิตรสีเขียว (Green Partnership) โดยร่วมมือกับองค์กรชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาโซลูชันและสร้างมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สีเขียวให้เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจไทยในวงกว้าง
โดยโมบิลิกส์มีบริการแบบครบวงจร (Full Ecosystem) ประกอบด้วย EV Rental Services บริการรถเช่าพลังงานไฟฟ้า ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจ On Premise & Public EV Charging Solutions ซอฟแวร์บริหารจัดการยานพาหนะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
นอกจากนี้ภายในงาน ปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มากล่าวในหัวข้อ Smart Eco Industrial Eatate เทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครของ WHA ว่าบริษัทฯ มีด้วยกันทั้งหมด 4 Business Hub ซึ่งก็คือ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และธุรกิจดิจิทัล โดยธุรกิจดิจิทัลจะมาสนับสนุนให้อีก 3 ธุรกิจที่เหลือเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2021 บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Digital Transformation, Innovation Workplace และ Data Driven Organization ตามลำดับในทุกปี และในปี 2024 ได้ปรับการใช้ AI ให้เข้ากับธุรกิจเป็นองค์กร AI Transformation
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่น่าสนใจของ WHA
– UOC ที่ดูระบบ และตรวจสอบภายในนิคมอุตสาหกรรมได้แบบ Realtime มอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตอนนี้ WHA มี 12 นิคมอุตสาหกรรมที่ operate แล้ว ทำให้ต้องมีความต่อเนื่องในการดูแล ไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำ ระบบไฟ มีการวัดค่าแบบออนไลน์และในแล็บ แต่ทุกอย่างจะมีข้อมูลอยู่บนดิจิทัล
– การติดตั้ง CCTV ในนิคมอุตสาหกรรม โดยสามารถนำเอาข้อมูลมาอยู่ในแพลตฟอร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทางลูกค้าเพิ่มเติมได้ อาทิ สามารถแจ้งปัญหาได้แบบทันที ลูกค้าสามารถจัดการเส้นทางที่จะใช้ได้
– การใช้ Adaptive control กับสัญญาณไฟจราจร ที่จะควบคุมตามสถานการณ์ สามารถปรับไฟจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ประหยัดเวลามากขึ้น และยังช่วยในเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย เพราะรถทุกคันที่เข้าออกในนิคมอุตสาหกรรมจะสามารถ Track ข้อมูลได้ทั้งหมด
– เทคโนโลยีแพลตฟอร์มให้ทางลูกค้าแจ้งปัญหาการใช้งานต่าง ๆ และทำให้สามารถจัดการคิวการให้บริการได้ดียิ่งขึ้น
– การใช้ AI โดรนและกล้องที่มีความสามารถในการตรวจหารอยรั่วเบื้องต้น บนพื้นที่หลังคาของ Warehouse ที่ WHA มีจำนวนมาก
โดยการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการบริหารจัดการปัญหาภายในนิคมอุตสาหกรรม จะสามารถช่วยลดต้นทุน ลดระยะเวลา และสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเทคโนโลยีจะมาช่วยในเรื่องการบำรุงรักษาภายในนิคมอุตสาหกรรมได้ดีมาก
ด้าน ไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนของ WHA ว่า ปัจจุบันเทรนด์โลกล้วนให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ต้องได้รับการดูแลมากขึ้น และเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาให้สิ่งที่มีอยู่มีประสิทธิภาพมากขึ้นยิ่ง และยังสร้างสรรค์สิ่งใหม่ได้ โดย WHA มีการวางเป้าหมายเรื่องความยั่งยืน และตั้งเป้าเป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนทั้งหมดในปีเดียวกันกับภาครัฐ ซึ่ง WHA พยายามใช้ทุกอย่างจากทรัพยากรที่มีและนำสิ่งที่ใช้แล้วกลับมาย้อนใช้ใหม่มากที่สุด อย่างเช่น Mobilix เมื่อแบตเตอรี่หมดอายุขัย ไม่สามารถใช้กับรถยนต์ได้ ทำให้ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ แต่แบตเตอรี่ก้อนนั้นยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนอื่นได้ WHA จึงนำเอาไปใช้ในธุรกิจของ WHAUP ต่อได้
นอกจากนี้ WHA ยังมีการวางแผน WHA Circular Innovation ปรับใช้กับกระบวนการที่ทำอยู่ ว่าสามารถทำให้มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นหรือไม่ การพัฒนาธุรกิจให้มีความหมุนเวียน นำกลับมาใช้ได้ อาทิ P2P Energy Trading แพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้า ซึ่งสามารถลดต้นทุนค่าไฟได้ และส่งเสริม FDI ด้วย เนื่องจากต้นทุนในการลงทุนมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งในอนาคตก็จะต่อเนื่องไปที่ WHA Emission Trading ที่จะสามารถนำเอาไฟฟ้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้
สำหรับเรื่องไฟฟ้า ได้มีการปรับใช้ไปเล้วกว่าครึ่งในนิคมอุตสาหกรรม โดยทางเดินรอบ ๆ ภายในนิคมอุตสาหกรรม จะเป็นวัสดุหมุนเวียน และเรื่องน้ำ ได้มีการนำเอาน้ำเสียมาผ่านกระบวนการจนสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง เป็น Green Material ลดการใช้น้ำจากธรรมชาติ ทำให้สามารถลดไปได้กว่า 7 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปีนี้ตั้งเป้าลด 10 ล้านลูกบาศก์เมตร และ 30 ล้านลูกบาศก์เมตรในอนาคต
“ปัจจุบัน WHA มีมากกว่า 40 โครงการ และการดำเนินธุรกิจให้มีความยั่งยืนนั้นต้องวางแผนเพื่ออนาคต ซึ่งก่อนที่ WHA จะเริ่มต้นทำโปรเจคต์อะไร จะมองถึงกลยุทธ์ก่อนเสมอ เรามองภาพมหภาคก่อนว่าเทรนด์โลกคืออะไร ซึ่งจะทำให้เรามองเห็นทั้งเทรนด์และโอกาส” ไกรลักขณ์ กล่าวเสริม
และ ณัฐพรรษ ตันบุญเอก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, social, and governance: ESG) ว่า ธุรกิจแรกเริ่มของบริษัทฯ คือนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเริ่มดำเนินการมาก่อนคำว่า ESG จะได้รับความนิยม และเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด
โดยบริษัทฯ ได้บรรลุเป้าหมายทางคาร์บอนแล้วตั้งแต่ในปี 2021 ซึ่งถึงแม้จะบรรลุแล้ว แต่บริษัทฯ ยังต้องการทำให้ออกสู่ภายนอก เพื่อสร้างแรงกระเพือมให้เกิดการตระหนักรู้มากยิ่งขึ้น โดยในโครงการโมบิลิกส์ กรีนโลจิสติกส์ครบวงจร สามารถคาร์บอนไดออกไซด์ได้จำนวนมาก เปรียบเทียบให้เห็นภาพ หากมีการใช้งาน 1000 คัน ใน 1 ปี ถ้ามีการวิ่งแบบปกติ จะลดคาร์บอนได้เท่ากับการดูดซับจากต้นไม้ใหญ่ ได้ถึง 1.6 ล้านต้น ซึ่งจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น และลูกค้าส่วนใหญ่ในกลุ่มธุรกิจขนส่งขนาดเล็กได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งทางบริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก หากเขาจะได้ใช้กรีนโลจิสติกส์ที่ได้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนการขนส่งขึ้น
ปัจจุบันบริษัทฯ มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์มากกว่า 20 ไซต์ จึงต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้ UOC ที่เข้ามาช่วยในการควบคุมดูแลแผงโซลาร์เซลล์ อีกทั้งยังได้ทำการรีไซเคิลน้ำ โดยนำน้ำเสียมาผ่านการกรองและกระบวนการ RO ซึ่งน้ำที่ผ่านกระบวนการ RO นี้จะสเปคสูง สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นการลดการใช้น้ำธรรมชาติได้เป็นจำนวนมาก เทียบเท่ากับการใช้น้ำ 200,000 ครัวเรือน โดยปีนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 220,000 ครัวเรือน
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น WHABIT ที่เป็น Digital Healthcare สำหรับใช้ในนิคมอุตสาหกรรม โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลประมาณ 2-3 แห่ง จากการเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของ Well-being ของประชากรในนิคมฯ ที่มีกว่า 250,000 คน ที่ถ้าหากมีการเจ็บป่วย และอาจเกิดความยากลำบากในการไปโรงพยาบาล และแอปพลิเคชั่น WHABIT นี้จะช่วยยกระดับ Healthcare access ได้ดีขึ้น
“แอปพลิเคชั่น WHABIT เปิดให้ใช้ฟรีในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ซึ่งในอนาคตอาจจะใช้ในภายนอกด้วย ซึ่งสำหรับ WHABIT นี้เราไม่ได้มองถึงผลกำไร เราต้องการให้เกิดการใช้งานจริง และมีประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด” ณัฐพรรษ กล่าว
นอกจากนี้ บูธของ WHA ในงาน Techsauce Global Summit 2024 ยังมีไฮไลต์นวัตกรรมที่นำมาจัดแสดง โดยแบ่งพื้นที่เป็นโซนต่างๆ ดังนี้
- Welcome to WHA Empire – เปิดตัวด้วยการต้อนรับด้วย AI ของ Group CEO คุณจรีพร จารุกรสกุล และรู้จักอาณาจักรของ WHA พร้อมโครงการที่สร้างให้เกิดระบบนิเวศอุตสาหกรรมยั่งยืน ตามแนวคิด WHA: WE SHAPE THE FUTURE
- Mobilix Green Logistics Solution ครั้งแรกของประเทศไทย – เจาะลึกทุกแง่มุมของ Mobilix โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ ที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และประหยัดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ให้ธุรกิจ
- Highlight Technologies กับ 4 กลุ่มธุรกิจ -การใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจพร้อมตอบโจทย์ความยั่งยืนครบทุกมิติ เช่น คลังสินค้าแบบ Built to Suit แนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอัจฉริยะ (SMART ECO Industrial Estates) แนวทางการใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการสาธารณูปโภคและพลังงาน โครงการดิจิทัลที่สำคัญเพื่อเป้าหมายไปสู่การเป็น Tech Company
- AI Transformation – การใช้เทคโนโลยี AI ในการพลิกโฉมและยกระดับศักยภาพธุรกิจ ประกอบด้วย Solar Anomaly ตรวจจับปัญหาที่เกิดขึ้นกับแผงโซลาร์เพื่อการดูแลรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ Solar Forecasting ประเมินและคาดการณ์ปริมาณแสงแดดล่วงหน้า เพื่อการวางแผนเพิ่มปริมาณการผลิตพลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ RO System Performance Forecastingใช้ Data Analytics ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสีย และสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
- Sustainability Growth – เปิดกลยุทธ์และเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ WHA เพื่อสร้างคุณค่าให้กับชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ใน 3 ด้านคือ Wellbeing การมุ่งสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทุกชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน Human Progress การพัฒนาบุคลากรในทุกภาคส่วนของสังคม และ Accessibility การสร้างโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานและคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมทั้งไฮไลต์โครงการและการบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ของ WHA ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDG) ทั้ง 17 ข้อขององค์การสหประชาชาติ
