
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ The Cool Down รายงานว่า มหาวิทยาลัยเนแบรสกา ในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยถึงความเสี่ยงในการใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหารกับบรรจุภัณฑ์พลาสติก ซึ่งทางมหาวิทยาลัยดังกล่าวได้ทดลองแล้วพบเจอไมโครพลาสติก หรือ พลาสติกขนาดเล็ก เข้าไปอยู่ในร่างกายของผู้บริโภค
เมื่อปี 2001 คาซี อัลบับ ฮุสเซน นักวิจัยพร้อมทีมงาน เริ่มทำการทดลองนำขวดนมพลาสติกของเด็ก ที่ผ่านมาตรฐานรับรองว่าสามารถทนทานต่อความร้อนและสามารถเข้าสู่ไมโครเวฟได้ นำมาบรรจุตัวสารละลายที่เปรียบแทนอาหารนำไปเข้าตู้ไมโครเวฟเป็นเวลา 3 นาที และส่งต่อให้เด็กรับประทาน ผลปรากฏว่าเด็กได้รับไมโคพลาสติกขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย และอีก 77 เปอร์เซ็นต์ของผู้ทดสอบพบว่าพบเจอไมโครพลาสติกอยู่ในเลือดด้วย บางรายพบสูงถึง 4 ล้านชิ้นในร่างกายเลยทีเดียว
สำหรับไมโครพลาสติกบางชนิดทำจากสารเปอร์และโพลีฟลูออโรอัลคิล (PFAS) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “สารเคมีตลอดกาล” เนื่องจากใช้เวลานานในการย่อยสลาย รัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินว่ามีชาวอเมริกันมากถึง 97 เปอร์เซ็นต์ที่มีสาร PFAS อยู่ในเลือด และมีการทดสอบแล้วว่าสารดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อไตของมนุษย์ เมื่อพบว่าเซลล์ประมาณ 75% ของไตถูกทำลายเมื่อสัมผัสกับไมโครพลาสติก
การหลีกเลี่ยงที่ดีที่สุดคือการงดใช้บบรจุภัณฑ์พลาสติกกับไมโครเวฟ หรือ ควรดูภาชนะที่ใช้กับไมโครเวฟได้จริงและสามารถทนความร้อนสูง ๆ ได้ อย่าลืมอ่านฉลากบนภาชนะให้ละเอียด ถ้าไม่ได้ระบุไว้ควรเลี่ยงการใช้ ควรใช้พลาสติกที่ระบุว่าใช้กับไมโครเวฟได้เท่านั้น โดยสังเกตจากตัวเลขอุณหภูมิที่ปรากฏบนผลิตภัณฑ์ และไม่ควรนำพลาสติกแบบ Single-Use มาใช้ซ้ำ เพราะอาจทำให้พลาสติกละลายได้
ทั้งนี้ในปัจจุบันมีพลาสติกที่นำเข้าไมโครเวฟได้ มี 2 ประเภท ประกอบด้วย พลาสติก CPET (Crystallized Polyethylene Terephthalate) และพลาสติก PP (Polypropylene)