
เอสไอจี ในฐานะผู้ให้บริการระบบและโซลูชันชั้นนำด้านบรรจุภัณฑ์ ภายใต้ความมุ่งมั่นในการส่งต่อผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลกในบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัย ยั่งยืน สร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ของลูกค้า ตอบสนองความต้องการบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุหมุนเวียน ร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ปกป้องภูมิทัศน์ป่าไม้ที่สำคัญในประเทศไทย เพิ่มคุณค่าความหลากหลายทางชีวภาพ
ด้วยกล่องบรรจุภัณฑ์ของเอสไอจี องค์ประกอบหลักทำจากกระดาษ ซึ่งได้มาจากเส้นใยของไม้ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรพิทักษ์ป่าไม้ (FSC-Certified) ว่าเป็นวัตถุดิบหมุนเวียนที่ได้จากป่าปลูก ซึ่งสะท้อนว่าให้เห็นว่า เอสไอจี เป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบในการ จัดหาวัตถุดิบเพื่อนำมาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ จึงได้ร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund For Nature) สวิตเซอร์แลนด์ และที่สำนักงานประเทศไทย (WWF Switzerland and Thailand) ริเริ่มโครงการเพื่อเชื่อมโยงและปกป้องภูมิทัศน์ป่าไม้ที่สำคัญในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการป่าไม้และการเชื่อมโยงในภูมิทัศน์ เทือกเขาตะนาวศรี พื้นที่ลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง และกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ป่าทั้งหมด 60,000 เฮกตาร์ หรือเทียบเท่า 375,000 ไร่ โครงการนี้เป็นโครงการเพื่อปกป้องและดูแลป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพโครงการที่สามของบริษัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งภายใต้โปรแกรม Forests Forward ต่อจากที่ดำเนินการแล้วใน เม็กซิโกและมาเลเซีย

วัชรพงศ์ อึงศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเทศไทย ลาว พม่าและกัมพูชา เอสไอจี กล่าวว่า “เอสไอจีมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้คนและโลก เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมาย 4 ด้านที่สำคัญ คือ Climate (สภาพภูมิอากาศ) Forest (ป่าไม้) Resource (ทรัพยากร) และ Food (อาหาร) ซึ่งครั้งนี้ได้ร่วมมือระหว่างเรากับ WWF สวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้เปิดโอกาสให้เอสไอจีสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อป่าไม้และชุมชนโดยรอบที่พึ่งพาอาศัยป่าไม้ ในโครงการความร่วมมือครั้งที่สามนี้ มีเป้าหมายเพื่อเชื่องโยงและปกป้องภูมิทัศน์ป่าไม้ที่สำคัญในประเทศไทย ที่มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอสไอจีในการดูแลป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบและสอดคล้องกับเป้าหมายสำหรับการฟื้นฟูในอนาคต เพื่อให้มันใจว่าเราสามารถช่วยเหลือผู้คนและโลกใบนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น”

ป่าไม้ของประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางชีวภาพอินโด-เมียนมาร์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ป่าไม้ผืนนี้เป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงเสือลายเมฆ เสือโคร่ง ช้างเอเชีย และกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่หลายชนิดกำลังตกอยู่ในอันตราย การตัดไม้ทำลายป่าและการเติบโตของที่อยู่อาศัยเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพนี้
ป่าไม้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทุกชีวิตบนโลก และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจของเอสไอจี เพราะเป็นแหล่งผลิตเยื่อไม้ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตกระดาษสำหรับบรรจุภัณฑ์ของเอสไอจี ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งของภาคเอกชนจึงมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้จากความสูญเสียและเสื่อมโทรม สำหรับโครการ Forests Forward ขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เป็นการดำเนินการของบริษัทเพื่อประโยชน์ต่อธรรมชาติ สภาพภูมิอากาศ และผู้คน บริษัทต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ Forests Forward ต้องยึดมั่นต่อเป้าหมายเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน และการลงทุนในภูมิทัศน์ของป่าไม้
ตั้งแต่ปี 2564 เอสไอจีได้จัดหากระดาษจากป่าไม้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรพิทักษ์ป่าไม้ ( FSC- Certified) เท่านั้น ซึ่งรับประกันได้ถึงมาตรฐานขั้นสูงในการจัดการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงการสนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพและชุมชน โครงการใหม่นี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเอสไอจี ในการสร้าง ฟื้นฟู ปกป้อง และการจัดการพื้นที่ป่าไม้เพิ่มเติม 650,000 เฮกตาร์ หรือราว 4.062 ล้านไร่ภายในปี 2573
โครงการใหม่นี้มีเป้าหมายหลัก 3 ประการ:
- เพื่อรักษาแนวชายขอบของป่าไม้ที่จำเป็นต่อการเชื่อมโยงและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าไม้
- เพื่อเสริมสร้างพื้นที่อนุรักษ์ที่มีอยู่และสนับสนุนการกำหนดพื้นที่คุ้มครองใหม่
- เพื่อให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบ ประยุกต์ใช้ และติดตามการอนุรักษ์ รวมถึงการมอบโอกาสและทางเลือกในการเลี้ยงชีพ
กิจกรรมภายใต้เป้าหมายเหล่านี้ เชื่อมโยงและฟื้นคืนให้ป่าไม้กลับมาอุดมสมบูรณ์ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการกลับมาของสัตว์ใหญ่ การปรับปรุงความเชื่อมโยงของที่อยู่อาศัยเพื่อช่วยช้างที่กระจายตัวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ในบริเวณแหล่งน้ำ การกำหนดพื้นที่คุ้มครอง การรักษาสิทธิการใช้ที่ดินสำหรับชุมชน และการส่งเสริมวนเกษตรและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

นอกจากนี้เอสไอจียังให้ความสำคัญในเรื่องการรีไซเคิล และมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมกล่องเครื่องดื่ม UHT ที่ปราศจากชั้นอะลูมิเนียม ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน พร้อมตอกย้ำแนวคิดการใช้ซ้ำ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ และออกแบบมาเพื่อการรีไซเคิลโดยเฉพาะ ซึ่งการเลิกใช้อะลูมิเนียมจะช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ ซึ่งอยู่ในช่วงของการพัฒนาคาดว่าจะเปิดตัวและนำมาใช้ในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้

รัฐพล พิทักษ์เทพสมบัติ รองผู้อำนวยการฝ่ายอนุรักษ์ และผู้อำนวยการส่วนงานกลุ่มป่าไม้ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย (WWF Thailand) กล่าวว่า “ความร่วมมือกับเอสไอจีช่วยให้องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำประเทศไทย มีโอกาสในการปกป้อง อนุรักษ์ และฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ที่มีความสำคัญระดับโลก 3 แห่งในประเทศไทย การสนับสนุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถฟื้นฟูป่าที่เสื่อมโทรมได้โดยตรง รวมถึงทำงานร่วมกับรัฐบาลและชุมชนในการกำหนดพื้นที่คุ้มครองใหม่เพื่อทำการอนุรักษ์และเชื่อมโยงป่าไม้ของเรา รวมถึงสนับสนุนการอยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ป่ารวมถึง เสือ กระทิง และช้างเอเชีย”
