
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP) หอการค้าไทย (TCC) และโคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี (KM) จัดงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกที่จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ผสมผสานการจัดงานระหว่างออฟไลน์และเทคโนโลยีออนไลน์ คือ มีการจัดงานแสดงสินค้าจริง ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน (Exhibitors) และผู้ชมงานในไทยที่ประกอบด้วยนักธุรกิจในวงการอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในไทย 51,869 กิจการ รวมถึงตัวแทนผู้ซื้อจากต่างประเทศ (Buying Agents) ที่มีสำนักงานในไทย และการจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง หรือ Virtual Trade Show ระหว่างผู้เข้าร่วมงาน (Exhibitors) กับผู้ซื้อผู้นำเข้าต่างประเทศ (Importers) ที่ไม่สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังจัดให้มีการแสดงสินค้าเสมือนจริง THAIFEXporter Virtual Trade Show ซึ่งเป็นการจัดงานรูปแบบใหม่ที่ทำขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการได้มีโอกาสติดต่อกับผู้ซื้อในต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ โดยสามารถซื้อขายผ่าน www.thaifex-vts.com
ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานจัดงานแสดงสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม THAIFEX–ANUGA ASIA 2020 โดยปีนี้เป็นไปตามนโยบายจัดในรูปแบบผสมผสาน (หรือ Hybrid) เป็นครั้งแรกของประเทศไทย ตอบรับสถานการณ์การค้าวิถีใหม่ (New Normal)

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน กิจกรรมหลาย ๆ อย่างต้องหยุดชะงักหรือชะลอตัว แม้แต่อุตสาหกรรมอาหารซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เคยเติบโตก็ได้รับผลกระทบ ยิ่งไปกว่านั้น เรายังต้องเผชิญกับสถานการณ์สงครามการค้า เศรษฐกิจชะลอตัว ความผันผวนของค่าเงินบาท ดังนั้น การปรับตัวทางเศรษฐกิจและการปรับตัวทางการค้าที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ จึงเป็น เรื่องที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าให้กับฐานราก โดยเฉพาะใน ส่วนของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน เอสเอ็มอี โอท็อป รวมทั้งไมโครเอสเอ็มอีต่าง ๆ ที่อยู่ในทุกภาคส่วน ของภูมิภาค
“กระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นความจำเป็นที่จะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน โดยนำแนวนโยบายเกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด ตามยุทธศาสตร์ ตลาดนำการผลิต ซึ่งเป็นความร่วมมือ ระหว่างสองกระทรวงสำคัญที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับพื้นฐานของประเทศ จนก้าวสู่ตลาดโลก คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงพาณิชย์ สร้างฐานข้อมูล Big Data ร่วมกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้วยคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับ มุ่งสู่ เป้าหมายให้ไทยเป็น ศูนย์กลางสินค้าเกษตรและอาหารคุณภาพของโลก โดยการค้าภายในประเทศ จะมีเซลล์แมนจังหวัดทำหน้าที่ขยายตลาดและหาช่องทางการจาหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการ ทำงานเป็นทีมระหว่างพาณิชย์จังหวัด จับมือกับเกษตรกร ผู้ประกอบธุรกิจ ภาคเอกชน และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สร้างโอกาสการค้าและช่องทางการเข้าสู่ตลาดของสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรและ ผู้ประกอบการไทย”
เพราะฉะนั้น การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการช่วยกระตุ้นตั้งแต่สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มของไทยให้ฟื้นตัวกลับมา พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่น และเน้นย้ำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยในเรื่องความปลอดภัย และยังสามารถผลิตและส่งออกได้ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับการบริโภคในโลก แม้ว่าจะมีเรื่องโควิด-19 มากระทบ แต่ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

Mr. Mathias Kuepper Managing Director, Koelnmesse Pte Ltd. กล่าวว่า สำหรับการจัดงานในปีนี้ ได้มีการปรับชื่องานเป็น THAIFEX – ANUGA ASIA ซึ่งเป็นการรวมตัวกันระหว่าง 2 งานที่ยิ่งใหญ่ คือ THAIFEX ของประเทศไทย และ ANUGA จากเยอรมนี และ ยังเป็นปีแรกที่ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้เป็นแบบไฮบริด (Hybrid) เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ โดยใช้ชื่องานว่า THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” โดยเป็นการผสมผสานการจัดงานระหว่างออฟไลน์และเทคโนโลยีออนไลน์ การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการช่วยกระตุ้นตั้งแต่สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่มของไทยให้ฟื้นตัวกลับมา พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่น และเน้นย้ำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทย
“ต้องบอกว่า เทรนด์อาหารในปัจจุบันเรียกได้ว่า มีเรื่องของ Healthy Foods เข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากผู้บริโภคมีความรู้มากขึ้น และหันมาสนใจเกี่ยวกับข้อมูลของอาหารที่จะรับประทาน เพราะฉะนัั้นอยากจะฝากถึงผู้ผลิต จะต้องมีการตรวจสอบวัตถุดิบ ความสะอาดปลอดภัยที่จะนำมาใช่ปรุงแต่ง และต้องมีความโปร่งใสเกี่ยวกับการทำธุรกิจตรงนี้ และในปัจจุบันประเทศไทยมี innovation เข้ามาเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการทำหรือวิธีการต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น และ Packaging ในสมัยก่อนนั้นใช้เพื่อความสวยงามในการบรรจุห่อหุ้มสินค้า ผลิตภัณฑ์อาหารหรือผลิตภัณฑ์อาหาร แต่ในปัจจุบันเราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบรรจุภัณฑ์ และที่สำคัญจะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิเช่น ผู้บริโภคในปัจจุบันมองหา Packaging ที่ทำมาจาก Food grade และพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีการใช้และทิ้งเพื่อที่จะทำให้เกิดการย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ ยกตัวอย่างในแถบทวีปยุโรป มีการใช้ Packaging ให้น้อยที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็จะไม่ใช้เลย เพื่อที่จะได้เป็นการลดการใช้ packaging เพื่อไม่ให้เกิดขยะเพิ่มมากขึ้น งานนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นการโชว์ศักยภาพนวัตกรรมของประเทศไทยที่มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการขยายและเพิ่มช่องทางของวงการอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไปอีกด้วย”
ภายในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” นอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่แบ่งเป็น 11 เทรดโชว์ ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ขนมและของขบเคี้ยว อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารแช่แข็ง ข้าวและธัญพืช ผักและผลไม้ กาแฟและชา ธุรกิจบริการด้านอาหาร และเทคโนโลยีด้านอาหาร แล้วยังมีกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ อีกมากมาย อาทิ นิทรรศการ EAT RESPONSIBLY เพื่อแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการไทย
งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” จัดขึ้น 5 วัน วันเจรจาการค้า วันที่ 22-26 กันยายน 2563 โดยปีนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและซื้อของได้ถึง 2 วัน คือ วันที่ 25-26 กันยายน 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ผู้ที่ต้องการเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ www.thaifex-anuga.com เปิดให้เข้าชมวันละ 2 รอบ ได้แก่ 10.00-14.00 และ 14.00-18.00 น. รอบละไม่เกิน 15,000 คน
