
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2024 สหภาพยุโรปได้ออก Regulation (EU) 2024/3190 ห้ามการใช้สาร Bisphenol A และอนุพันธ์ในวัสดุและสิ่งของที่จะนำมาสัมผัสอาหาร โดยปรับปรุง Regulation (EU) No.10/2011 และยกเลิกการใช้ Regulation (EU) 2018/213
ที่ยอมให้ใช้สาร BPA ในสารเคลือบกระป๋อง 0.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และละลายลงสู่อาหาร 0.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
สาร BPA เป็นสารเริ่มต้นที่ใช้ในการผลิต Epoxy – Phenolic เพื่อเคลือบภายในและภายนอกกระป๋องบรรจุอาหารและในแท็งก์ขนาดใหญ่ (250 ลิตร) เนื่องจาก BPA เป็นสารเริ่มต้นในกระบวนการผลิตโพลีคาร์บอเนต ซึ่งใช้ทำขวดนม แก้วน้ำหัดดื่ม BPA เป็นสารในกลุ่มสารรบกวนการทํางานของต่อมไรทอยด์ (Endrocrine Disruptor) มีโครงสร้างใกล้เคียงกับเอสโตรเจน (Estrogen) ฮอร์โมนสําคัญของผู้หญิง การได้รับสาร BPA สะสมเป็นเวลานานและปริมาณสูงมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ได้แก่ ความผิดปกติของพัฒนาการในเด็ก การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และการกระตุ้นให้เกิดเนื้องอก มีการประเมินความเป็นพิษของ BPA ใหม่โดยสถาบัน National Oxicology สหรัฐอเมริกา โครงการดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาว 2 ปี พบว่า BPA เป็นสารให้โทษแก่ร่างกายมนุษย์ รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นจึงสรุปค่า TDI (Tolerable Daily Intake) ใหม่ในปี ค.ศ. 2015 เป็น 0.2 นาโนกรัม/กิโลกรัม/น้ำหนักตัว (0.2Ng/kg)/น้ำหนักตัว ซึ่งเป็นปริมาณ 20,000 เท่า ต่ำกว่าที่เคยประเมินคือ 4 ไมโครกรัม/กิโลกรัม/น้ำหนักตัว (Ug/ Kg)(หรือ4,000 Ng/kg)/น้ำหนักตัว ดังนั้นหน่วยงานดังกล่าว สรุปผลว่า BPA มีโทษกับคนทุกเพศทุกวัย
โพลีคาร์บอร์เนตเกิดจากปฏิกิริยาของ BPA กับฟอสจีน ดังนั้นจึงมีการห้ามขวดนมและถ้วยหัดดื่มที่ทำด้วยโพลีคาร์บอร์เนตใน Regulation 321/2011

ในขณะเดียวกัน BPA เป็นสารเริ่มต้นที่ใช้ทำ Epoxy Phenolicโดย BPA ทำปฏิกิริยากับ Epichlorohydrin ได้ Epoxy – Phenolic ใช้เคลือบภายในและภายนอกกระป๋อง แต่ปฏิกิริยาการเกิด Epoxy Phenolic ไม่สมบรูณ์จะเกิด Bisphenol A Diglycidyl Ether (BADGE) ทำปฏิกิริยากับน้ำหรือกรดได้ ซึ่งจะเป็น BADGE.HCL และ BDGE.H2O ซึ่งโมเลกุลของ BADGE คล้ายโครงสร้างของสารที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์

จึงมีการกำหนดปริมาณ BADGE ใน Regulation No. 1895/2005 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ. 2549 เมื่อใช้ Epoxy Phenolic เคลือบกระป๋องต้องมีสาร BADGE, BADGE.HCl, BADGE.2HCl, BADGE.H2O.HCl ไม่เกิน 1 Mg/Kg หรือ 1 Mg/6 Dm2

ในอาหารหรือสารละลายตัวแทนอาหาร (Food Simulant)
จากข้อมูลของความเป็นโทษของ BPA ดังกล่าวข้างต้น สหภาพยุโรปได้ห้ามใช้ BPA และอนุพันธ์ของวัสดุสัมผัสอาหารใน Regulation (EU)2024/3190 วันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ต่อไปนี้
(ก) กาว (Adhesives)
(ข) ยาง
(ค) สารกรองเรซิน (เรซินแลกเปลี่ยน อิออน Ion-Exchange Resin )
(ง) พลาสติก
(จ) หมึกพิมพ์
(ฉ) ซิลิโคน
(ช) สารเคลือบผิว (Varnishes and Coating)
ซึ่งได้กำหนดปริมาณของ BPA ชนิดอื่นและอนุพันธ์ของ BPA ในวัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารไว้ด้วย นอกจากนั้นผู้ประกอบการต้องมั่นใจว่าวัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่กำหนดใน Regulation นี้ไม่สามารถสัมผัสอาหารได้ นอกจากBPA ยังรวมถึง Bisphenols และอนุพันธ์ของ BPAในการนำมาใช้เป็น Monomer หรือสารเริ่มต้นของวัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารต้องแสดงข้อมูลดังกล่าวใน “DoC” (เอกสารแสดงการปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือ Declaration of Compliance) ซึ่งอยู่ในภาคผนวก 3 ของ Regulation ฉบับนี้ ซึ่งต้องประกอบด้วยเอกสารสนับสนุนที่จำเป็นเมื่อหน่วยงานที่มีอำนาจร้องขอ
ระยะเวลาที่ผ่อนผันในการเปลี่ยนแปลงสำหรับวัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ครั้งเดียว
1.วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ครั้งเดียว (Single-use Final Articles) และผลิตโดยใช้ BPA ก่อนการบังคับใช้ระเบียบใหม่ ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบนี้ ให้วางจำหน่ายได้ถึง 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2026
2.วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ครั้งเดียวดังต่อไปนี้ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบใหม่ให้วางจำหน่ายได้ถึง 20 มกราคม ค.ศ. 2028 ดังนี้
(ก) วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ครั้งเดียว ที่ตั้งใจจะถนอมอาหารประเภท:
(I) ผักหรือผลไม้ ยกเว้นที่กำหนดในภาคผนวก I ของ Directive 2001/112/EC
(II) ผลิตภัณฑ์ปลา ที่กำหนดใน Regulation No.853/2004
(ข) วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ครั้งเดียวซึ่งมีสารเคลือบผลิตโดยใช้ BPA สามารถใช้ภายนอกกระป๋องที่เป็นโลหะเท่านั้น
3.วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ครั้งเดียวที่วางจำหน่ายตามที่กำหนดในข้อ 1 และ 2 สามารถบรรจุอาหารและปิดผนึกภายใน 12 เดือน หลังจากวันที่ยอมให้ผ่อนผันในข้อ 1 และ 2 ผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าวสามารถวางจำหน่ายจนหมดคลังสินค้า
ระยะเวลาที่ผ่อนผันในการเปลี่ยนแปลงสำหรับวัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ซ้ำ
1.วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ซ้ำผลิตโดยใช้ BPA ก่อนการบังคับใช้ระเบียบใหม่ ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบนี้ให้วางจำหน่ายได้ถึง 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2026
2.วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ซ้ำซึ่งเป็นเครื่องมือผลิตอาหารตามหลักวิชาชีพซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบนี้ให้วางจำหน่ายได้ถึง 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2028
3.วัสดุและสิ่งของที่ใช้สัมผัสอาหารที่ใช้ซ้ำซึ่งเป็นไปตามข้อ 1 และ ข้อ 2 สามารถวางจำหน่ายจนถึง 20 มกราคม ค.ศ. 2029 ซึ่งเป็นระยะที่กำหนดที่ช้าที่สุด