
กลุ่มธุรกิจโคคา–โคล่า ในประเทศไทย โดยคุณอินเยส คอร์ทเฮ้าส์ กรรมการผู้จัดการ คุณธนพร โฆสิตาภัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจพาณิชย์ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด คุณริการ์โดวโรดม สุจริตกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ-Corporate Strategy คุณอริสา ภักดีเมฆานนท์รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ-Commercial Operations บริษัท หาดทิพย์ จำกัด(มหาชน) คุณริชา ซิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด โคคา–โคล่า ประจำประเทศไทยเมียน และคุณวิกเตอร์ หว่อง” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา–โคล่า (ประเทศไทย) จำกัดเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด โดยเริ่มจาก “โค้ก” รสชาติออริจินัล และ “โค้ก” สูตรไม่มีน้ำตาล ขนาด 1 ลิตร วางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ววันนี้
ปัจจุบัน ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก “โคคา–โคล่า” มีผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 1 แบรนด์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ ที่ผลิตจากพลาสติก PET รีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด อาทิ ในอินโดนีเซีย เมียนมา เวียดนาม และล่าสุดในไทย การใช้บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายในระดับโลกของ “โคคา–โคล่า” ที่ต้องการส่งเสริมความยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายระดับโลก ที่จะใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 50% ภายในปี 2573 โดยในประเทศไทย ขวด “โค้ก” ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและใช้เทคโนโลยีจากบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด ซึ่งผ่านการรับรองความปลอดภัยด้านอาหาร โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย และตรงตามมาตรฐานการผลิตสินค้าระดับโลกของ “โคคา–โคล่า”

“โคคา–โคล่า” ตระหนักดีว่าปัญหาขยะพลาสติกในประเทศไทยมีความเร่งด่วนและซับซ้อน จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างยั่งยืน เรามีความมุ่งมั่นที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติกอย่างครบวงจรในประเทศไทย จึงทุ่มเททำงานในการออกแบบนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด รวมไปถึงการขยายแคมเปญการเก็บคืนบรรจุภัณฑ์เพื่อนำไปรีไซเคิลให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าสร้างพันธมิตรและความร่วมมือออกไปยังหลายภาคส่วน เราเชื่อว่าความแข็งแกร่งของแบรนด์ “โคคา–โคล่า” จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงและสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคชาวไทยหันมาแยกขยะ เพื่อให้ขวดพลาสติกใช้แล้วสามารถเกิดเป็นขวดใหม่ได้ไม่รู้จบ”
ทั้งนี้ด้วยความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการแยกขยะเพื่อรีไซเคิล ก่อนการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ “โค้ก” ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด “โคคา–โคล่า” ได้ส่งเสริมให้ผู้บริโภคแยกขยะและวัสดุรีไซเคิลตั้งแต่ต้นทาง ผ่านแคมเปญ “ “โค้ก” ชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky” ดำเนินการมาเป็นปีที่ 3 ผ่านความร่วมมือกับแทรชลัคกี้ สตาร์ทอัปเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาจำแนกและแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ออกจากขยะทั่วไป กว่า3 ปีที่ผ่านมาแคมเปญดังกล่าวสามารถเก็บคืนขวดพลาสติก PET ได้มากกว่า 700,000 ขวด และมีเป้าหมายจะไปให้ถึงหลักล้านขวดภายในปีนี้ โดยแคมแปญในปีนี้ ผู้บริโภคสามารถส่งวัสดุรีไซเคิลต่างๆ แบบไม่กำจัดแบรนด์ผ่าน จุดรับวัสดุรีไซเคิล 64 จุดทั่วกรุงเทพฯ และภูเก็ตอีก 5 จุด ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ถึง 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งผู้เข้าร่วมจะได้ร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลสนับสนุนโดย “โคคา–โคล่า” มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท

สำหรับแคมเปญ “โค้ก” คิดเพื่อโลก กับขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด มีการสื่อสารไปยังผู้บริโภคในวงกว้างผ่านสื่อโฆษณานอกบ้าน สื่อดิจิทัล เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ รวมถึงกิจกรรมการร่วมคืนขวด “โค้ก” ในอีเว้นต์ของ “โคคา–โคล่า” ที่ผู้บริโภคจะได้ร่วมลุ้นของรางวัลและบัตร VIP สำหรับเข้าชมคอนเสิร์ต COKE Studio และอื่น ๆ อีกมากมาย
“โคคา–โคล่า” ยังจัดใหญ่กับงานเปิดตัวแคมเปญ “โค้ก” คิดเพื่อโลก กับขวดจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด ที่ห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียโดยมุ่งเน้นสร้างความตระหนักรู้และวิธีการที่ถูกต้องในการแยกขยะและการรีไซเคิลไฮไลท์ในงาน คือผู้บริโภคที่นำบรรจุภัณฑ์ “โค้ก” 5 ขวดมาร่วมรีไซเคิลภายในงาน ลุ้นสิทธิ์เป็น 1 ใน 30 คนแรกที่จะได้ร่วมกระทบไหล่ใกล้ชิดกับ “พีพี–กฤษฏ์ อำนวยเดชกรในมินิคอนเสิร์ตอีกด้วย นอกจากนี้ผู้บริโภคสามารถร่วมรีไซเคิลได้โดยการนำขวดพลาสติกไม่จำกัดแบรนด์ ไปหย่อนไว้ที่จุดรับขวดของ “โคคา–โคล่า” ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ และเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ ซึ่งขวดพลาสติกที่รวบรวมได้จะถูกนำไปรีไซเคิลโดย บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด เพื่อคืนชีวิตให้ขวดพลาสติกเหล่านั้นกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ “โค้ก” ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% ไม่รวมฉลากและฝาขวด ที่นำมาใช้ได้อีกไม่รู้จบ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมด้านความยั่งยืนของ “โคคา–โคล่า” ประเทศไทย ได้ทาง Facebook และ Instagram หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์www.coca-cola.com/th/th